Saturday, November 23, 2024
Latest:
Technology

ไมเนอร์ โฮเทลส์ เลือกใช้ SiteMinder Multi-Property สร้างความสามารถทางการแข่งขันที่ยั่งยืน

การเตรียมความพร้อมต่อการเปลี่ยนแปลง นับเป็นหัวใจหลักของไมเนอร์ โฮเทลส์ ด้วยวิธีการตั้งรับพร้อมรับการเปลี่ยนแปลงในทุกสถานการณ์นี้เอง ทำให้ไมเนอร์ โฮเทลส์ ที่มีโรงแรมในเครือกว่า 530 โรงแรม คาดหวังที่จะมีพาร์ทเนอร์ด้านเทคโนโลยีที่พร้อมปรับตัวต่อการเปลี่ยนแปลงเช่นเดียวกัน  ซึ่ง SiteMinder สามารถตอบสนองความต้องการดังกล่าวนั้นด้วย  Multi-Property

ในปี 2019 ไมเนอร์ โฮเทลส์ ซึ่งมีสำนักงานใหญ่อยู่ในประเทศไทย ได้รับการจัดอันดับว่าเป็นหนึ่งใน 25 เครือโรงแรมที่ใหญ่ที่สุดในโลก ซึ่งเป็นผลลัพธ์มาจากความมุ่งมั่นบ่มเพาะความเชี่ยวชาญและการขยายเครือข่ายโรงแรมแม้ในพื้นที่ที่ยังไม่เคยดำเนินธุรกิจมาก่อน  ซึ่งแนวทางดังกล่าวได้รับการสนับสนุนจากพาร์ทเนอร์อย่าง SiteMinder ที่ร่วมธุรกิจกันมาอย่างยาวนาน ในการสร้างความยืดหยุ่นและพร้อมปรับเปลี่ยนเข้ากับทุกสถานการณ์เพื่อรองรับความต้องการของแขกผู้เข้าพักเป็นอันดับแรก ซึ่งกลายมาเป็นแนวทางที่สร้างความสำเร็จให้กับไมเนอร์ ในช่วงที่ผ่านมา

Kannaphon Phienlumleart ผู้อำนวยการฝ่ายการจัดจำหน่ายห้องพัก กล่าวว่า สิ่งที่เรามองหาจากแพลตฟอร์มคือ ความยืดหยุ่นในการใช้งานที่เปิดโอกาสให้เรา สามารถเลือก ‘สั่งงานจากส่วนกลางในครั้งเดียว’ หรือ ‘สั่งงานแยกในแต่ละส่วน’ ตามแต่สถานการณ์ รวมถึงการทำรีพอร์ทของแต่ละโรงแรมผ่านส่วนกลาง และยังสามารถตั้งค่าการสั่งงานจากส่วนกลางหรือสลับตั้งค่าผ่านระบบของแต่ละโรงแรมได้ ซึ่งความยืดหยุ่นดังกล่าวแสดงให้เห็นว่า เราสามารถตอบสนองได้อย่างทันท่วงที ไม่ว่าที่ไหนหรือเมื่อใด สิ่งนี้ สามารถสะท้อนตัวตนของบริษัทฯ เราได้เป็นอย่างดี

Minor และ SiteMinder ร่วมงานกันมาตั้งแต่ปี 2013 แต่การเปิดตัวของ Multi-Property ของ SiteMinder ในครั้งนี้ช่วยให้เครือโรงแรมสามารถรวมการทำงานต่างๆ เข้าสู่ศูนย์กลางได้ทันท่วงทีโดยเฉพาะในสถานการณ์ปัจจุบัน


จุดเด่นของ SiteMinder Multi-Property

Multi-Property ของ SiteMinder ไม่เพียงแค่ช่วยลดความซับซ้อนแต่ยังเพิ่มประสิทธิภาพให้กับทีมที่ดูแลด้านรายได้ ด้วยการเปิดโอกาสให้กลุ่มและเครือโรงแรมจัดการและจัดสรรราคาห้องพักของตนได้จากส่วนกลาง

Marcos Cadena รองประธานฝ่ายการตลาดดิจิทัล, การจัดจำหน่าย CRM ลูกค้าสัมพันธ์ ฝ่ายหุ้นส่วน และหัวหน้าฝ่ายความเป็นส่วนตัวของข้อมูล ของ ไมเนอร์ โฮเทลส์ กล่าวว่าเทคโนโลยีดังกล่าวช่วยให้เครือโรงแรมสามารถกำหนดนโยบายและควบคุมกลไกต่างๆ ผ่านระบบศูนย์กลางจากประเทศไทย  เนื่องจากสามารถวิเคราะห์และเข้าถึงข้อมูลที่จำเป็นของทุกโรงแรมในเครือได้ครบบนแพลตฟอร์มเดียว

“เทคโนโลยีดังกล่าวช่วยประหยัดเวลาให้กับบริษัทฯอย่างมหาศาล จากปกติที่ประมาณการว่าต้องใช้คนเพิ่มถึง 10 คนในการดูแลงานดังกล่าวให้ทั่วถึงหากไม่ได้ใช้เทคโนโลยีนี้ ซึ่งถือเป็นส่วนสำคัญที่กระทบต่อกำไรของบริษัทฯ” Marcos  กล่าว

นอกจากนั้น ด้วยประสบการณ์การใช้งานของ Multi-Property ที่ง่ายดาย ส่งผลให้การฝึกอบรมสมาชิกใหม่ในทีม ให้สามารถร่วมงานเริ่มต้นทำงานร่วมกันได้ง่ายขึ้น

“สิ่งที่ทำให้เราประทับใจใน SiteMinder มาตลอด คือประสบการณ์การใช้งานที่ดีเยี่ยมเสมอมา ซึ่งบางครั้ง ปัจจัยนี้มีความสำคัญสำหรับเรามากกว่าปัจจัยทางด้านราคา เพราะเราได้ตระหนักว่า หากประสบการณ์ของผู้ใช้งานไม่เป็นที่น่าพึงพอใจ คนก็จะเลิกใช้ผลิตภัณฑ์นั้นไป ไม่ว่าผลิตภัณฑ์นั้นจะมีราคาถูกหรือแพงเพียงใดก็ตาม”  Marcos กล่าว

Kannaphon เน้นย้ำว่าเทคโนโลยีดังกล่าว เหมาะอย่างยิ่งสำหรับบริษัทที่งานส่วนใหญ่ ถูกกระจายความรับผิดชอบไปยังแต่ละส่วน โดยสามารถเปลี่ยนมาใช้งาน Multi-Property เพื่อให้การทำงานทุกวันง่ายดายยิ่งขึ้นแทน

“โรงแรมแต่ละแห่งในเครือของเราสามารถจัดการบริหารงานในแต่ละวันได้ด้วยตนเอง แต่ก็เป็นข้อดีขององค์กรเช่นกันหากเราสามารถกำหนดโปรโมชั่นให้กับทุกโรงแรมในเครือได้ในเวลาเดียวกัน   โดยเราสามารถเลือกสั่งการบางฟังก์ชั่นได้เองจากส่วนกลางของบริษัท ซึ่งนับเป็นอีกหนึ่งข้อดีที่จะช่วยเพิ่มความยืดหยุ่นในการทำงานให้กับเรา” Kannaphon กล่าว

พร้อมกันนี้ยังได้เน้นถึงความสำคัญของการตรวจสภาพความสมบูรณ์ ผ่าน Multi-Property ที่อำนวยความสะดวกให้ทีมงานสามารถตรวจสอบสถานะของการเชื่อมต่อในแต่ละช่องทาง ณ เวลานั้นๆ สำหรับโรงแรมแต่ละแห่งในเครือได้


ส่งเสริมการเติบโตทางธุรกิจ

ไมเนอร์วางแผนที่จะเปิดตัวโรงแรมอีกกว่า 17 แห่งในปีนี้ ซึ่งทั้ง Marcos และ  Kannaphon เชื่อว่า Multi-Property จะเป็นหัวใจสำคัญที่จะช่วยให้การจัดตั้งโรงแรมใหม่ รวมไปถึงการฝึกอบรมพนักงานใหม่เป็นไปได้อย่างรวดเร็วยิ่งขึ้น ซึ่งความรวดเร็วในการเปิดตัวสู่ตลาดของแต่ละโรงแรมใหม่ในเครือเพิ่มขึ้นนี้  ช่วยให้ไมเนอร์ สามารถลดอัตราการจ้างบุคลากรรวมไปถึงค่าใช้จ่ายอื่นๆเกี่ยวข้องได้เป็นอย่างดี

“หากเราไม่มีเทคโนโลยีที่เราใช้งานอยู่ในทุกวันนี้ ผมไม่คิดว่าเราจะสามารถคงอัตรากำไรที่เราตั้งเป้าเอาไว้ได้ บริษัทของเราเป็นบริษัทเชิงพาณิชย์ซึ่งเรื่องของงบกำไรขาดทุนถือเป็นสิ่งสำคัญที่เราจะต้องจับตาอยู่เสมอ และถ้าหากเครื่องมือที่เราใช้ไม่สามารถตอบโจทย์ด้านดังกล่าว เราจำเป็นที่จะต้องเปลี่ยนไปใช้ตัวช่วยอื่นแทน”  Marcos กล่าว

สำหรับประเด็นในเรื่องการประหยัดเวลา เป็นอีกหนึ่งประเด็นที่สำคัญ ตัวอย่างเช่นในสถานการณ์ปัจจุบัน ที่ทรัพยากรกำลังขาดแคลน แต่คุณ Marcos ยกตัวอย่างให้เห็นถึงความสามารถในการบริหารงานอย่างมีประสิทธิภาพ จากทีมงานของคุณ Kannaphon ที่มีเพียง 3 ทีมในประเทศไทย แต่ดูแลโรงแรมทั้งสิ้นกว่า 80 แห่ง

“เราสามารถจัดการหลายโครงการได้จากที่เดียว โดยใช้กำลังคนเพียงเล็กน้อยเท่านั้น นับเป็นข้อพิสูจน์ด้านประสิทธิภาพของแพลตฟอร์มจากSiteMinder ได้เป็นอย่างดี เราสามารถลดต้นทุนและเพิ่มกำลังการขยายธุรกิจ เพื่อให้ต้นทุนรวมของโรงแรมเรานั้นต่ำที่สุด ถือเป็นสิ่งที่ช่วยเราอย่างมากโดยเฉพาะในสถานการณ์ปัจจุบัน ที่ทำให้เราต้องมีการปรับลดจำนวนพนักงานลง เทคโนโลยีนี้ช่วยให้เราสามารถจัดการงานต่างๆ ที่เราไม่สามารถทำได้มาก่อน เรียกได้ว่าระบบการจัดการใหม่ของ SiteMinder นี้ เปิดตัวในเวลาที่เหมาะสมเป็นอย่างยิ่ง เพราะจะช่วยให้เราสามารถพัฒนาต่อไปข้างหน้าได้ แม้ในขณะที่ตลาดกำลังเปลี่ยนแปลงไป” Marcos กล่าว


การทำงานร่วมกันอย่างสอดประสาน ช่วยสร้างผลลัพธ์ที่เหนือกว่า

Multi-Property ไม่เพียงช่วยเพิ่มกำไรทางธุรกิจ แต่ยังช่วยให้พนักงานของ ไมเนอร์สามารถทำงานประสานกันได้เป็นหนึ่งเดียวกันมากขึ้น

ทั้งนี้ Kannaphon และ Marcos ตั้งเป้าที่จะเห็นการทำงานร่วมกันระหว่างฝ่ายการตลาด ฝ่ายการจัดจำหน่ายห้องพัก และฝ่ายจัดการรายได้ ผ่านการใช้งานเทคโนโลยีนี้เพิ่มมากขึ้น เพื่อสร้างผลประกอบการที่น่าประทับใจสำหรับเจ้าของโรงแรม โดยการทำงานที่มีการประสานระหว่างฝ่ายนี้ ส่งผลให้ผลประกอบการดีขึ้นจากกลยุทธ์การตั้งราคาที่มีประสิทธิภาพและการปรับเปลี่ยนโปรโมชั่นจากส่วนกลางที่ทำได้ได้อย่างต่อเนื่อง แม่นยำและทันท่วงที