SENA ปรับกลยุทธ์ลงทุนกว้านซื้อคอนโด 3 แห่ง พร้อมปั้นแบรนด์ใหม่ “FLEXI” ตอบโจทย์ Gen Y& Z
กรุงเทพฯ -15 ตุลาคม 2564 : SENA พลิกเกมช่วงวิกฤต ช้อนซื้อคอนโดมิเนียม 3 แห่งหวังเพิ่มยอดขาย -สร้างรายได้เร็ว พร้อมปั้นแบรนด์ใหม่ “FLEXI” มัดใจ Gen Y& Z รวมถึง Gen X ในราคา 1.5-2.5 ล้านบาท นำร่อง 3 ทำเล “เจริญนคร ,รัตนาธิเบศร์ และ เตาปูน” ชี้ธุรกิจยุค COVID-19 ต้องปรับตัวให้ทันกำลังซื้อ รู้จุดไหน คือ เป้าหมาย โอกาสใหม่ และอนาคต
ผศ.ดร.เกษรา ธัญลักษณ์ภาคย์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท เสนาดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน) กล่าวว่าภาวะเศรษฐกิจไทยยังมีแนวโน้มชะลอตัว กระทบต่อรายได้ของประชาชนลดลง และภาระหนี้สินครัวเรือนยังอยู่ในระดับสูง ทำให้อัตราการปฏิเสธสินเชื่อในระดับสูงขึ้นตามไปด้วย ประกอบกับภาพรวมเศรษฐกิจที่ถดถอยส่งผลให้กำลังซื้อขาดความเชื่อมั่น ขณะที่ผู้ประกอบการอสังหาริมทรัพย์ยังไม่เร่งเปิดโครงการใหม่จากความไม่แน่นอนของ COVID-19 แต่ในแง่ของผู้ซื้อที่มีความพร้อม ถือเป็นจังหวะที่ดีในการซื้อที่อยู่อาศัยในช่วงนี้ เพราะราคาขายลดลงมาค่อนข้างมาก อัตราดอกเบี้ยต่ำ
ขณะที่ภาพรวมภาคอสังหาริมทรัพย์ไทยคาดว่าฟื้นตัวในปี พ.ศ2565 หากสถานการณ์การแพร่ระบาดของ COVID-19 คลี่คลายภายในสิ้นปีนี้ และมีวัคซีนเข้ามาในประเทศมากขึ้น คนส่วนใหญ่ได้รับการฉีดวัคซีนมากกว่า 70% วิถีชีวิตคนเริ่มกลับมาทำงานมีรายได้ปกติ สังคมมีความปลอดภัยระดับหนึ่ง เมื่อเศรษฐกิจโดยรวมดีขึ้นก็จะส่งผลบวกต่อภาพรวมธุรกิจอื่นด้วย โดยเฉพาะตลาดอสังหาริมทรัพย์
อย่างไรก็ตาม ปีนี้ถือเป็นปีที่ต้องมีการปรับตัวให้เร็วและให้ทันต่อสถานการณ์ที่เกิดขึ้นรายวัน โดยเสนา ยังคงดำเนินธุรกิจตามพันธกิจต้นปีที่วางไว้ภายใต้มาตรการ “SENA Strong” พร้อมปรับตัว ปรับกลยุทธ์ใหม่ให้เหมาะกับสถานการณ์และกำลังซื้อในปัจจุบัน และเพื่อสร้างโอกาสใหม่ ๆให้กับธุรกิจ โดยที่ผ่านมาเน้นซื้อที่ดินเปล่ามาพัฒนาเองตั้งแต่เริ่มลงเสาเข็ม แต่ปัจจุบันด้วยสถานการณ์ทางเศรษฐกิจทำให้มีโครงการที่มีปัญหาขาดสภาพคล่องทางการเงินไปต่อไปไม่ได้หลายโครงการ ทำให้ทางเสนาเห็นโอกาสในการขยายธุรกิจด้วยการเข้าเทคโอเวอร์โครงการที่อยู่ระหว่างก่อสร้าง ซึ่งข้อดีคือ ประหยัดทั้งเวลาและต้นทุน สามารถรับรู้รายได้ได้เร็ว ที่สำคัญคือ โครงการเหล่านี้อยู่บนทำเลที่ดีมีศักยภาพและบางโครงการมาพร้อมกับลูกค้าเก่าที่เตรียมพร้อมโอนแล้ว แต่ที่ผ่านมาอาจติดเรื่องเงินทุนหมุนเวียนเท่านั้น
ผศ.ดร.เกษรา กล่าวว่าปัจจุบันทางเสนาได้ซื้อโครงการแล้ว 3 ทำเล ประกอบด้วย 1.ย่านรัตนาธิเบศร์ 2.ย่านเจริญนคร 3.ย่านบางซื่อ – เตาปูน มูลค่ารวมทั้งสิ้นกว่า 2,000 ล้านบาทโดยทั้ง 3 โครงการ พัฒนาภายใต้แบรนด์ใหม่ “เฟล็กซี่ (FLEXI)” แบรนด์ที่สะท้อนความเป็นตัวตนของคนรุ่นใหม่ Gen Y & Gen Z และคนรุ่นใหม่ที่มีความหลากหลายในการใช้ชีวิตและสามารถปรับเปลี่ยนตัวเองและพร้อมยืดหยุ่นได้ตลอดเวลา ในราคาเริ่มต้นที่ 1.5-2.5 ล้านบาท
“เฟล็กซี่ (FLEXI)” ถูกนำมาใช้กับโปรเจกต์แรก “เฟล็กซี่ (FLEXI) รัตนาธิเบศร์” พร้อมกับนำแนวคิด Made From Her การสร้างที่อยู่อาศัยจากความใส่ใจและเก็บทุกรายละเอียดในการอยู่อาศัยมาเพื่อพัฒนาโปรดักส์และการบริการเพื่อให้ลูกค้าของเสนาได้รับสินค้าและการบริการที่ดีที่สุด ทั้งฟังก์ชันของเฟอร์นิเจอร์ที่สามารถปรับเปลี่ยนได้ตามความต้องการ รวมถึงบริการหลังการขายผ่านแอปพลิเคชัน SENA 360 แอปเดียวที่ช่วยแจ้งซ่อม ซื้อ-ขาย ฝาก เช่า ให้กับลูกบ้านได้สะดวกสบายยิ่งขึ้น” ผศ.ดร.เกษรา กล่าว
สำหรับเป้ายอดขายในปีนี้ ทางบริษัทฯ ปรับลดลงเหลือ 7,111 ล้านบาท ส่วนยอดโอนของบริษัทฯ ได้ปรับลดลงมาเหลือ 6,943 ล้านบาท โดยในช่วง 8 เดือนที่ผ่านมา (ม.ค.-ส.ค. 64) บริษัทฯ สามารถทำยอดขายได้แล้ว 3,200 ล้านบาท ปัจจุบันยอดรับรู้รายได้จากมูลค่ายอดขายรอโอน (Backlog) ทั้งหมด 7,052 ล้านบาท ( ณ สิ้นเดือน มิถุนายน 2564) สามารถรับรู้ในปีนี้ 3,689 ล้านบาท