SC เดินหน้า Reform 3 เรื่อง รับความท้าทายปี’68 รุกเปิดโครงการใหม่ 16 โครงการ โรงแรม 2 แห่ง และคลังสินค้า 3 แห่ง มั่นใจรายได้โต 11%

กรุงเทพฯ -20 กุมภาพันธ์ 2568 : ณัฐพงศ์ คุณากรวงศ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เอสซี แอสเสท คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ SC ผู้นำการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์คุณภาพสูง และมีนวัตกรรม เปิดเผยว่า ในปี 2567 SC ปรับตัวอย่างรวดเร็ว เพื่อรับมือภูเขาอุปสรรค 3 ลูกของธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ คือ หนี้ครัวเรือนสูง, อุปทานล้น, และความเชื่อมั่นต่ำ โดยสามารถสะสมที่ดินทำเลคุณภาพรองรับการเติบโต ไม่น้อยกว่า 3 ปี สำหรับพัฒนาอสังหาริมทรัพย์หลากหลาย ที่อยู่อาศัย โรงแรม และ คลังสินค้า ในปีที่ผ่านมาได้ออกงานแสดงสินค้ามากกว่า 10ครั้ง ทุกๆไตรมาสยอดขายเติบโต10% รักษาแชมป์บ้านราคา10ล้านบาทขึ้น ทำให้มีความสามารถ แข็งแกร่ง มีสภาพคล่องรองรับการเติบโตมากกว่า 10,000 ล้านบาท พร้อมทั้งมีพันธมิตรร่วมทุนที่แข็งแกร่ง และเป็นแบรนด์เป็นที่น่าเชื่อมั่น เป็นปีที่ท้าทายแต่ปรับตัวได้

ในปี 2568 ภูเขาอุปสรรค 3 ลูกยังคงอยู่ และเพิ่มเติมปัจจัยผันผวนจากภูมิรัฐศาสตร์ SC จึงปรับตัวอย่างต่อเนื่อง #RethinkToReform เพื่อเพิ่มความสามารถในการแข่งขัน และ เติบโตสร้างคุณค่าได้อย่างยั่งยืน

สำหรับการปรับตัวครั้งสำคัญ ด้วยการ Reform 3 เรื่อง คือ Reform 1ปรับพอร์ตโฟลิโอธุรกิจ แบ่งเป็น 3 กลุ่ม เพื่อกระจายความเสี่ยง ได้แก่ Engine 1 – อสังหาริมทรัพย์ที่อยู่อาศัยเพื่อขาย แนวราบและคอนโด Engine 2 – อสังหาริมทรัพย์สร้างรายได้ประจำ โรงแรม คลังสินค้า อาคารสำนักงาน และอพาร์ตเมนต์ในสหรัฐอเมริกา และ Engine 3 – โอกาสใหม่ ลงทุนในธุรกิจที่มีแนวโน้มเติบโตในอนาคต เพิ่มความสมดุลของพอร์ตโฟลิโอ มีกำไรจากธุรกิจที่หลากหลายมากขึ้น การลงทุนจะเป็นไปอย่างรอบคอบ ร่วมทุนกับพันธมิตรแข็งแกร่ง และสัดส่วนหนี้ต่อทุนจะลดลงอย่างมีนัยในปีนี้ โดยในปีนี้อยู่ในช่วงเตรียมตัว บุคลากรและการลงทุนในปี 2569

Reform 2 ปรับโครงสร้างต้นทุนและค่าใช้จ่ายให้เหมาะสม เน้นย้ำคุณภาพสูง นวัตกรรมตอบโจทย์ลูกค้า และ เพิ่มความสามารถในการทำกำไร โดย SC ได้ปรับตัวเรื่องค่าใช้จ่ายตั้งแต่กลางปี 2567 พร้อมให้พนักงานปรับตัวรับกับความท้าทาย

Reform 3 ปรับโครงสร้างองค์กร ลดต้นทุนเพื่อให้บริษัทอยู่รอด เพิ่มความคล่องตัว รองรับการเติบโตของธุรกิจที่หลากหลาย และเพิ่มโอกาสเติบโตของพนักงาน

ณัฐพงศ์ กล่าวถึงเป้าหมายและแผนธุรกิจปี 2568 ว่า ยอดขายรายได้กำไรต้องเติบโต ธุรกิจฟื้นตัวแข็งแกร่ง เติบโตทั้งยอดขาย รายได้ และกำไร สภาพคล่องแข็งแกร่ง สัดส่วนหนี้ต่อทุนลดลงอย่างมีนัย พร้อมทั้งเป้าหมายยอดขาย 26,000 ล้านบาท หรือเติบโตจากปี 2567 ประมาณ 4% และ รายได้รวมจากทุกกลุ่มธุรกิจ 25,000 ล้านบาท หรือเติบโตจากปี 2567 ประมาณ 11% ลงทุนต่อเนื่องด้วยงบลงทุน 7,000 ล้านบาท ในธุรกิจหลากหลาย รักษาตำแหน่งผู้นำบ้านเดี่ยว เพิ่มส่วนแบ่งตลาดคอนโด และสัดส่วนกำไรจากอสังหาริมทรัพย์รายได้ประจำสม่ำเสมอ

• Engine1 อสังหาริมทรัพย์ที่อยู่อาศัย ปี 2568 จะมีจำนวนโครงการทั้งหมด 96 โครงการครอบคลุมทั้งกรุงเทพฯ และปริมณฑล มูลค่ารวม 94,500 ล้านบาท เป็นโครงการใหม่ 15 โครงการ 28,000 ล้านบาท แบ่งเป็น แนวราบ 12โครงการ 18,000 ล้านบาท มีไฮไลต์คือแบรนด์ใหม่ SONLE บ้านเดี่ยวสไตล์ Sophisticated Modern Tropical ราคาเริ่มต้น 200 ล้านบาท จำนวน 5 ยูนิต และ บ้านเดี่ยวซีรีส์ใหม่ 2025 จากแบรนด์ Bangkok Boulevard มีโถงสูง รวมทั้งมีแบรนด์ใหม่ matter ทาวน์โฮมที่ออกแบบเพื่อ Gen Z มีมุมทำกิจกรรมหลากหลาย และคอนโดมิเนียม 3โครงการ มูลค่า 10,000 ล้านบาท ครบเซกเมนต์ ภายใต้แบรนด์ Reference และ COBE ต่อยอดความสำเร็จคอนโดมิเนียม SC สะท้อนจากยอดขาย Reference เอกมัย ที่สร้างยอดขายได้ถึง 80% ในช่วงแรกของการเปิดตัว ที่ผ่านมาได้เปิดตัว Reference Kaset Distric และจะเปิดอีก 2 โครงการ ได้แก่ Reference ลาดพร้าว -สุทธิสารใกล้รถไฟฟ้าโชคชัย 4 และ Reference ทำเลติดถนนสุขุมวิท ใกล้รถไฟฟ้าพร้อมพงษ์

• Engine 2 อสังหาริมทรัพย์รายได้ประจำ ณ ปลายปี 2025 จะมีจำนวนโครงการรวมทั้งหมด 19 โครงการ จาก 4 ธุรกิจ ได้แก่ โรงแรมรวม 545 ห้อง, คลังสินค้าให้เช่ารวม 200,000 ตารางเมตร, อาคารสำนักงาน 120,000 ตารางเมตร และอพาร์ตเมนต์เพื่อเช่าในสหรัฐอเมริกา 5 อาคาร โดยมีไฮไลต์ คือ โรงแรมใหม่ 2 ทำเล เปิดตัวไตรมาส 2 ปี 2568 คือ KROMO, Curio Collection by Hilton ทำเลติดถนนสุขุมวิท ตรงข้ามห้าง EmSphere และ The Standard หนึ่งเดียวในพัทยา ติดหาดนาจอมเทียน และคลังสินค้าเพื่อเช่า 3 โครงการใหม่ ในทำเล บางนา กม. 20 พื้นที่ 78,000 ตร.ม. , แหลมฉบัง 46,000 ตร.ม. และ นิคมอุตสาหกรรมอมตะ จ.ชลบุรี 37,000 ตร.ม.

สำหรับมาตรการที่ต้องการเสนอให้ภาครัฐกระตุ้นอสังหาริมทรัพย์ คือ 1.กระตุ้นกำลังซื้อทุกระดับราคา โดยให้แบงค์ชาติผ่อนคลาย LTV (Loan to Value) สำหรับที่อยู่อาศัยทุกระดับราคาชั่วคราวประมาณ 1-2 ปี เพราะการเก็งกำไรลดลงแล้ว 2.สนับสนุนให้แบงก์ปล่อยกู้ และ 3.ดึงดูดให้นักลงทุนต่างชาติเข้ามา ดึงดูดเข้ามาเป็นเจ้าของอสังหาริมทรัพย์ในไทย

“ปี 2568 เป็นปีที่ท้าทาย ทั้งปัญหาหนี้ครัวเรือนสูง อสังหาริมทรัพย์โอเวอร์ซัพพลาย ความเชื่อมั่น คนระมัดระวัง ธนาคารปล่อยกู้ยากและเพิ่มความผันผวนจากภูมิรัฐศาสตร์ จากนโยบายของโดนัลด์ ทรัมป์ SC จะปรับตัวอย่างต่อเนื่อง ธุรกิจฟื้นแข็งแกร่งกำไรเติบโต ลงทุนอย่างรอบคอบ และกระจายความเสี่ยงในธุรกิจที่หลากหลาย รักษาความเชื่อมั่นของแบรนด์ผ่านมาตรฐานสินค้าคุณภาพสูงและบริการที่อบอุ่น ผ่านการซื้อวัสดุประหยัดพลังงาน ใช้พลังงานสะอาด โซลาร์เซลล์ และรวมทั้งตั้งเป้าหมายลด GHGรวมกันมากกว่า100,000 ตันคาร์บอน ในปี 2568-2573 เพื่ออนาคตของคนรุ่นต่อไป” ณัฐพงศ์ กล่าวสรุป