ORI โชว์ผลงาน 1H/2564 แกร่ง ทำกำไรแตะ 1,677 ล้าน ยอดโอนบ้านเครือบริทาเนียคึกทำ New High ต่อเนื่อง จ่ายปันผลระหว่างกาล 0.12 บาทต่อหุ้น
“ออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้” เผยผลประกอบการ 1H/2564 กวาดรายได้รวม 7,671 ล้านบาท ทะลุ 55% ของเป้าทั้งปี พร้อมกำไรสุทธิ 1,677 ล้านบา หลังผลงาน Q2/2564 แกร่งกวาดรายได้ 3,801 ล้าน และกำไร 852 ล้านบาท รักษาอัตรากำไรสุทธิระดับ 22.4% ยอดโอนกรรมสิทธิ์บ้านจัดสรรเครือบริทาเนียพุ่ง สร้าง New High ต่อเนื่อง เล็งจ่ายปันผลระหว่างกาล หุ้นละ 0.12 บาท ขึ้นเครื่องหมาย XD วันที่ 24 สิงหาคมนี้ จับตาสถานการณ์ประเทศครึ่งปีหลังใกล้ชิด พร้อมปรับตัวต่อเนื่อง มั่นใจ Q3/2564 โครงการสร้างเสร็จใหม่ทยอยโอนกรรมสิทธิ์ตามแผน
พีระพงศ์ จรูญเอก ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด (มหาชน) หรือ ORI ผู้พัฒนาธุรกิจอสังหาริมทรัพย์แบบครบวงจร เปิดเผยว่า ผลการดำเนินงานครึ่งปีแรกของปี พ.ศ.2564 หรือ 1H/2564 (ม.ค.-มิ.ย. 2564) อยู่ในระดับที่น่าพึงพอใจ โดยมีรายได้รวมอยู่ที่ 7,671 ล้านบาท เติบโตขึ้น 35% จากช่วงเดียวกันของปีพ.ศ.2563 (%YoY) ส่งผลให้รายได้รวมขณะนี้คิดเป็น 55% ของเป้ารายได้ทั้งปีพ.ศ. 2564 ขณะเดียวกัน มีกำไรสุทธิอยู่ที่ 1,677 ล้านบาท เติบโตขึ้น 29% จากช่วงเดียวกันของปี พ.ศ.2563 (%YoY)
โดยเฉพาะผลการดำเนินงานในช่วงไตรมาส 2/2564 ที่มีส่วนสำคัญให้ภาพรวมครึ่งปีแรกยังเติบโตได้อย่างต่อเนื่อง มีรายได้รวมอยู่ที่ 3,801 ล้านบาท เติบโตขึ้น 15% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมา และมีกำไรสุทธิที่ 852 ล้านบาท เติบโตขึ้น 20% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมา รวมถึงยังสามารถรักษาระดับอัตรากำไรสุทธิ (Net Profit Margin) ได้ที่ 22.4% สูงกว่าค่าเฉลี่ยของอุตสาหกรรม
“แม้จะมีมาตรการกึ่งล็อคดาวน์เกือบตลอดทั้งไตรมาส 2/2564 จากการแพร่ระบาดของ COVID-19 ระลอก 3 แต่เรายังคงมียอดโอนกรรมสิทธิ์เข้ามาอย่างต่อเนื่อง สาเหตุหลักส่วนหนึ่งมาจากการวางรากฐานกระจายความเสี่ยงในอดีต ส่งผลให้ปัจจุบันเรามีโครงการทั้งบ้านจัดสรรและคอนโดมิเนียมกระจายออกไปครอบคลุมทุกเซ็กเมนท์และทุกทำเลศักยภาพ ขณะเดียวกัน เรายังพยายามเพิ่มช่องทางการตลาดใหม่ๆ ให้ผู้บริโภคสามารถเข้าถึงกลุ่มโครงการพร้อมอยู่ (Ready to move) และโครงการที่อยู่ระหว่างเปิดขายของเราได้ง่ายยิ่งขึ้น เช่น การจัด Property Live ขายคอนโดแบรนด์ดิ ออริจิ้น ผ่าน Live สดแบบ Consumer Products” พีระพงศ์ กล่าว
ทั้งนี้ บ้านจัดสรรในเครือบริทาเนียเองก็ยังได้รับความไว้วางใจจากผู้บริโภคอย่างต่อเนื่อง ยอดโอนกรรมสิทธิ์สามารถทุบสถิติ New High เดิม 835 ล้านบาทในไตรมาส 1/2564 มาสร้าง New High ใหม่ที่ 924 ล้านบาทในไตรมาส 2/2564
จากผลการดำเนินงานที่ยังรักษาระดับการเติบโตได้อย่างมั่นคงท่ามกลางแรงกดดันทางเศรษฐกิจ ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัท มีมติเห็นชอบให้เสนอต่อที่ประชุมผู้ถือหุ้นสามัญจ่ายปันผลสำหรับกำไรสะสมและผลการดำเนินงานของบริษัทงวด 1 ม.ค.-30 มิ.ย. 64 ในอัตรา 0.12 บาทต่อหุ้น คิดเป็นเงินปันผลจ่ายเป็นเงินสดทั้งสิ้นไม่เกิน 294 ล้านบาท โดยกำหนดรายชื่อผู้ถือหุ้นที่มีสิทธิได้รับเงินปันผล (Record Date) ในวันที่ 25 สิงหาคม 2564 ขึ้นเครื่องหมาย XD ในวันที่ 24 สิงหาคม 2564 และกำหนดจ่ายปันผลให้แก่ผู้ถือหุ้นภายในวันที่ 9 กันยายน 2564
พีระพงศ์ กล่าวว่า สำหรับสถานการณ์ในไตรมาส 3/2564 ภาพรวมธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ได้รับแรงกดดันจากจากมาตรการล็อคดาวน์ที่เข้มข้นขึ้น และการปิดแคมป์คนงานในช่วงเดือน ก.ค. เชื่อว่าผู้ประกอบการยังคงจับตาดู Action Plan จากภาครัฐเพิ่มเติมทั้งมาตรการควบคุมการแพร่ระบาด การฉีดวัคซีนที่มีประสิทธิภาพเพื่อสร้างภูมิคุ้มกันหมู่ และการเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบทางเศรษฐกิจ เนื่องจากทั้ง 3 เรื่องจะมีผลต่อการดำเนินงานของภาคเอกชน
อย่างไรก็ดี บริษัทฯ จะยังคงเดินหน้าปรับตัวอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้พร้อมรับมือทุกสถานการณ์ ขณะที่ไตรมาส 3/2564 นั้น บริษัทมีโครงการคอนโดมิเนียมก่อสร้างแล้วเสร็จใหม่เพิ่มเติม 4 โครงการ มูลค่าโครงการรวมกว่า 7,030 ล้านบาท ได้ตามแผนงานเดิม ได้แก่ 1.พาร์ค ออริจิ้น พญาไท (PARK ORIGIN Phayathai) 2.นอตติ้ง ฮิลล์ ระยอง (Notting Hill Rayong) 3.บริกซ์ตัน เพ็ท แอนด์ เพลย์ สุขุมวิท 107 (Brixton Pet & Play Sukhumvit 107) และ 4. ดิ ออริจิ้น รัชดา ลาดพร้าว (The Origin Ratchada Ladprao) เนื่องจากทั้ง 4 โครงการมีการก่อสร้างที่ค่อนข้างเร็วกว่าแผนงานมาตั้งแต่ต้น ทำให้แม้มีการปิดแคมป์โครงการในกรุงเทพฯไป 1 เดือน ก็ยังจะทยอยส่งมอบและเริ่มโอนกรรมสิทธิ์ได้ภายในกำหนดเดิม