ลลิล พร็อพเพอร์ตี้ เปิด 2 โครงการใหม่ ลลิล ทาวน์ ไลโอ วงแหวนฯ-ลำลูกกา (คลอง6) และ ไลโอ 2 รังสิต – คลอง 2 ขานรับกำลังซื้อกรุงเทพฯ โซนเหนือ
ชูรัชฏ์ ชาครกุล กรรมการผู้จัดการ บริษัท ลลิล พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด (มหาชน) หรือ LALIN ผู้พัฒนาโครงการอสังหาริมทรัพย์ภายใต้คอนเซ็ปต์ “บ้านที่ปลูกบนความตั้งใจที่ดี” เปิดเผยว่า ล่าสุดบริษัทฯ ได้เปิดตัว 2 โครงการใหม่ในทำเลศักยภาพย่านรังสิต “ลลิล ทาวน์ ไลโอ วงแหวนฯ-ลำลูกกา (คลอง6) และ ไลโอ 2 รังสิต – คลอง 2” ซึ่งได้รับการตอบรับเป็นอย่างดีจากกลุ่มกำลังซื้อ Real Demand ในย่านดังกล่าว โดยมีปัจจัยหนุนเกิดจากศักยภาพการเติบโตของทำเลโซนรังสิตและลำลูกกาในปัจจุบัน ทำให้กลุ่มเป้าหมายเห็นถึงมูลค่าเพิ่มของทำเลในโซนนี้ที่ขยับสูงขึ้นในทุกปี โดยเฉพาะกระแสตอบรับของระบบขนส่งมวลชนกรุงเทพอย่างรถไฟฟ้าสายสีเขียว ที่จะช่วยในเรื่องการเดินทางให้สะดวกสบายมากยิ่งขึ้น อีกทั้งยังมีแผนการพัฒนาโครงการก่อสร้างในอนาคต อาทิ ห้างสรรพสินค้าเมการังสิต โครงการค้าปลีกและศูนย์การค้าขนาดใหญ่บนเนื้อที่กว่า 250 ไร่ และห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัล เอ็ม รังสิต ศูนย์การค้าแห่งใหม่ในกลุ่มเซ็นทรัลพัฒนา หรือ CPN บนเนื้อที่กว่า 600 ไร่ ทั้งนี้ยังรวมไปถึงการพัฒนาโครงการเมกกะโปรเจคระดับใหญ่ของทั้งภาครัฐและเอกชน ที่ถือเป็นอีกหนึ่งปัจจัยที่ทำให้มูลค่าของทำเลแห่งนี้เติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่อง
“จากการสำรวจภาพรวมกำลังซื้อในย่านดังกล่าวพบว่า ประเภทโครงการที่มีความต้องการในย่านรังสิต ยังคงเป็นทาวน์โฮมและบ้านเดี่ยว ระดับราคา 2-6 ล้านบาท ซึ่งการเสนอโครงการ “ลลิล ทาวน์ ไลโอ วงแหวนฯ-ลำลูกกา (คลอง6) และ ไลโอ 2 รังสิต – คลอง 2” เข้าสู่ตลาดนั้นจึงเป็นจังหวะที่เหมาะสมเพื่อดูดซับกำลังซื้อ Real Demand ได้อย่างถูกที่ถูกเวลา ประกอบกับการที่ ลลิล พร็อพเพอร์ตี้ ได้วิเคราะห์ข้อมูลทำให้เข้าใจถึงความต้องการของลูกค้ากลุ่มนี้ จึงได้พัฒนาแบบบ้านดีไซน์ใหม่สไตล์ฝรั่งเศส French Colonial Style เน้นเรื่องฟังก์ชันของบ้านที่ให้ความคุ้มค่าในทุกตารางเมตร ตอบโจทย์ทุกไลฟ์สไตล์ ที่สำคัญสามารถอยู่อาศัยได้ในระยะยาว” ชูรัชฏ์ กล่าว
สำหรับ โครงการ ลลิล ทาวน์ ไลโอ วงแหวนฯ-ลำลูกกา (คลอง6) เป็นโครงการทาวน์โฮม 2 ชั้น ราคาเริ่มต้นที่ 2 ล้านบาท ตั้งอยู่บนพื้นที่ 48 ไร่ รวม 423 ยูนิต มูลค่า 900 ล้านบาท โดยถูกพัฒนาขึ้นภายใต้แนวคิด Happiness of Living ‘ความสุขที่ลงตัว กับทุกความต้องการของการใช้ชีวิต’ เน้นความคุ้มค่าในด้านการใช้งาน และพื้นที่ใช้สอยที่ตอบโจทย์ด้านไลฟ์สไตล์ของคนรุ่นใหม่ เน้นการประหยัดพลังงาน ครบครันไปด้วยพื้นที่ส่วนกลางที่ช่วยอำนวยความสะดวกสบายในวันหยุดพักผ่อน อาทิ สวนส่วนกลางขนาดใหญ่สไตล์โพรวองซ์ (Provence) ที่ช่วยให้ชีวิตได้ใกล้ชิดและรื่นรมย์กับธรรมชาติมากยิ่งขึ้น มีการติดตั้งกล้องวงจรปิดภายในโครงการ พร้อมเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยดูแลตลอด 24 ชั่วโมง สามารถเข้า-ออกโครงการด้วยระบบ Keycard Access ทำให้สามารถอุ่นใจได้ตลอดวัน
อีกทั้งยังเป็นทำเลศักยภาพที่ตอบโจทย์ทุกการเดินทาง สามารถเชื่อมต่อเข้า-ออกเมืองได้อย่างสะดวกสบายด้วยทางยกระดับอุตราภิมุข หรือดอนเมืองโทลล์เวย์ ,ทางด่วนอุดรรัถยา ,ถนนวงแหวนรอบนอกสายตะวันออก บางปะอิน-บางนา ,ถนนวิภาวดีรังสิต ,ถนนพหลโยธิน และยังมีระบบขนส่งสาธารณะที่ช่วยอำนวยความสะดวก ไม่ว่าจะเป็น รถไฟฟ้าสายสีเขียว (สถานีคูคต) หรือแม้กระทั่งยังสามารถจับจ่ายใช้สอยในวันหยุดได้อย่างสะดวกสบาย เพราะใกล้ห้างสรรพสินค้าชื่อดังอย่าง แฟชั่นไอส์แลนด์ อีกด้วย โดยโครงการนี้มีแบบบ้านให้เลือก 2 แบบ ประกอบด้วย แบบบ้าน Lyon พื้นที่ใช้สอย 125 ตร.ม. ฟังก์ชัน 4 ห้องนอน 2 ห้องน้ำ 2 ที่จอดรถ และแบบบ้าน Lille พื้นที่ใช้สอย 105 ตร.ม. ฟังก์ชัน 3 ห้องนอน 2 ห้องน้ำ 1 ที่จอดรถ
ส่วนโครงการไลโอ 2 รังสิต – คลอง 2 เป็นโครงการทาวน์โฮม 2 ชั้น ราคาเริ่มต้นที่ 2 ล้านบาท ตั้งอยู่บนพื้นที่กว่า 41 ไร่ รวม 488 ยูนิต มูลค่า 1,100 ล้านบาท ที่มาพร้อมพื้นที่ส่วนกลางขนาดใหญ่ และสวนสวยสไตล์โพรวองซ์ (Provence) ,มีการนำระบบ Solar Cell มาใช้ในพื้นที่ส่วนกลางเพื่อช่วยในการประหยัดพลังงานไฟฟ้า ,ติดตั้งระบบหมุนเวียนน้ำ โดยนำน้ำที่ใช้แล้วกลับมาใช้ดูแลสวนส่วนกลาง พร้อมทั้งยังมีการตั้งเวลา เปิด-ปิด ในการรดน้ำต้นไม้ เพื่อลดการใช้น้ำเกินความจำเป็นและเกิดประโยชน์สูงสุด ซึ่งโครงการนี้ยังถือเป็นโครงการที่มีทำเลศักยภาพ ตอบโจทย์ทุกการเดินทาง สามารถเชื่อมต่อเข้า-ออก เมืองได้อย่างสะดวกสบาย ไม่ว่าจะเป็นทางยกระดับอุตราภิมุข หรือดอนเมืองโทลล์เวย์ ,ทางด่วนอุดรรัถยา ,ถนนวงแหวนรอบนอกสายตะวันออก บางปะอิน-บางนา ,ถนนวิภาวดีรังสิต ,ถนนพหลโยธิน และยังมีระบบขนส่งสาธารณะที่อำนวยความสะดวก ไม่ว่าจะเป็น รถไฟฟ้าสายสีเขียว (สถานีคูคต-หมอชิต) ,รถไฟฟ้าสายสีแดง (สถานีรังสิต-บางซื่อ) นอกจากนี้ยังใกล้กับแหล่งช็อปปิ้งชื่อดังอย่างห้างสรรพสินค้าฟิวเจอร์พาร์ครังสิต ให้สะดวกสบายในการใช้ชีวิตประจำวัน โดยโครงการนี้มีแบบบ้านให้เลือก 2 แบบ ประกอบด้วย แบบบ้าน Lyon พื้นที่ใช้สอย 125 ตร.ม. ขนาด 4 ห้องนอน 2 ห้องน้ำ และ 2 ที่จอดรถ และแบบบ้าน Lille พื้นที่ใช้สอย 105 ตร.ม. ขนาด 3 ห้องนอน 2 ห้องน้ำ และ 1 ที่จอดรถ
“บริษัทฯ ยังคงคำนึงถึงความต้องการของผู้บริโภคเป็นหลัก เพราะเราเชื่อว่าลูกค้าคือหัวใจสำคัญในการทำธุรกิจ แม้ยุคสมัยเปลี่ยนไปความต้องการก็จะเปลี่ยนแปลงตามไปด้วยเช่นกัน ฉะนั้นการศึกษาและวิเคราะห์พฤติกรรมผู้บริโภคจึงสำคัญมากในการทำธุรกิจ หากเรารู้จักปรับตัวตามโลกให้เท่าทัน เราก็จะเป็นองค์กรที่ไม่หยุดพัฒนา และพร้อมที่สร้างประสบการณ์ใหม่ๆเพื่อส่งมอบสิ่งที่ดีที่สุดให้กับลูกค้าของเราเช่นกัน” ชูรัชฏ์ กล่าวสรุป