Wednesday, December 4, 2024
Latest:
Property

สมาคมธุรกิจรับสร้างบ้าน ชี้ภาพรวมตลาด Q1 ปี’65 โตต่อเนื่อง แนะจับตาน้ำมันปรับสูงขึ้นส่งผลต้นทุนรับสร้างบ้านเพิ่มขึ้น 5-8%

สมาคมธุรกิจรับสร้างบ้าน เผยตลาดรับสร้างบ้านไตรมาสแรกของปี พ.ศ 2565 โตต่อเนื่องจากช่วงปลายปี พ.ศ.2565 ภาพรวมทั้งปีพ.ศ.2565 จะมียอดรวมธุรกิจรับสร้างบ้านประมาณ 11,500 ล้านบาท ขณะที่ต้นทุนรับสร้างบ้านในปี พ.ศ.2565 จะเพิ่มขึ้น 5-8% เหตุปัจจัยเสี่ยงจากราคาวัตถุดิบ โดยเฉพาะเหล็ก ราคาน้ำมันที่ปรับสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง สงคราม รัสเซีย-ยูเครน ที่เกิดขึ้น และสถานการณ์ COVID-19 ที่ยังไม่ยุติ พร้อมเดินหน้าจัดงานรับสร้างบ้านและวัสดุ FOCUS 2022 ภายใต้แนวคิด “ฉีกทุกข้อจำกัดของการสร้างบ้าน” เพื่อตอบโจทย์ทุกความต้องการเรื่องบ้าน เทรนด์นวัตกรรม และแบบบ้านใหม่ ระหว่างวันที่ 30 มีนาคม – 3 เมษายน พ.ศ. 2565 ณ ฮอลล์ ศูนย์แสดงสินค้าและการประชุม อิมแพ็ค เมืองทองธานี

วรวุฒิ กาญจนกูล นายกสมาคมธุรกิจรับสร้างบ้าน (Home Builder Association : HBA) กล่าวถึงแนวโน้มธุรกิจรับสร้างบ้านในปี พ.ศ.2565 ว่า ภาพรวมตลาดรับสร้างบ้านมีสัญญาณที่เป็นบวกในช่วงไตรมาสสุดท้ายของปี พ.ศ.2564 จากยอดการจองปลูกสร้างบ้านในงานรับสร้างบ้านและวัสดุ Expo 2021 ที่จัดขึ้นเมื่อปลายเดือนพฤศจิกายน 2564 พบยอดเติบโตขึ้นกว่าปี พ.ศ.2563 ถึง 20% จนมาถึงช่วงเดือนมกราคม – กุมภาพันธ์ พ.ศ.2565 ยังมีผู้บริโภคที่ต้องการปลูกสร้างบ้านติดต่อมายังบริษัทที่เป็นสมาชิกของสมาคมฯ อย่างต่อเนื่องทั้งในพื้นที่กรุงเทพมหานคร ปริมณฑล และต่างจังหวัด คาดว่าทั้งปี พ.ศ.2565 ยอดรายได้ธุรกิจรับสร้างบ้านจะอยู่ที่ประมาณ 11,500 ล้านบาท

อย่างไรก็ตามคาดว่า ราคาต้นทุนจะปรับเพิ่มขึ้น 5-8% โดยปัจจัยมาจากต้นทุนวัตถุดิบโดยเฉพาะราคาเหล็กที่ยังมีแนวโน้มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ราคาน้ำมันจากสงคราม รัสเซีย-ยูเครนและสถานการณ์ COVID-19 ที่ยังไม่ยุติ รวมทั้งค่าแรงงานที่สูงขึ้นจากการขาดแคนแรงงานในภาคธุรกิจรับสร้างบ้านต้องนำเข้าแรงงานจากประเทศเพื่อนบ้านเข้ามาทดแทนแรงงานในประเทศแต่ก็ยังไม่สามารถทดแทนภาคธุรกิจรับสร้างบ้านได้ จึงจำเป็นที่จะต้องคิดค้นนวัตกรรมวัสดุรับสร้างบ้านที่ประกอบได้เลยในระหว่างการสร้างบ้านแทน เช่น เสา หรือคานนำไปติดตั้งลดการใช้แรงงาน ลดระยะเวลาการก่อสร้าง เป็นต้น

ในส่วนของเทรนด์ผู้บริโภคที่สร้างบ้านนั้น วรวุฒิ กล่าวว่า ปัจจุบันอายุจะอยู่ในช่วงวัยทำงานคนรุ่นใหม่ประมาณ 30-40 ปี ซึ่งจะนิยมสร้างบ้านลดการใช้พลังงาน นำนวัตกรรม เทคโนโลยีที่อำนวยความสะดวกปลอดภัยมาใช้อำนวยความสะดวกในบ้านรวมทั้งเทรนด์การคำนึงถึงการอยู่รวมกันของครอบครัวใหญ่ที่มีผู้สูงอายุอยู่ร่วมกันภายในบ้านมากขึ้น การออกแบบบ้านมีการวางแปลนบ้านในแต่ละชั้นรองรับการใช้งานให้เหมาะสมด้วย เช่น ชั้นล่างเหมาะสมให้ผู้สูงอายุอยู่ มีปุ่มกดฉุกเฉินในมุมที่ผู้สูงอายุมองเห็นได้ชัดมีกล้องวงจรปิด 24 ชั่วโมง และมีพื้นที่นุ่มกันกระแทกป้องกันการหกล้มแล้วเกิดแผลแก่ผู้สูงอายุได้ เป็นต้น

สำหรับการปรับขึ้นค่าจ้างแรงงานจากภาครัฐนั้น ทางสมาคมฯ ประเมินว่าหากปรับขึ้นค่าแรงไม่เกิน 10-15% จะไม่ส่งผลกระทบมากนักต่อต้นทุนการสร้างบ้าน หากปรับค่าแรงขึ้นถึง 30-40% จะส่งผลค่อนข้างมาก ซึ่งได้มีการเตรียมแผนรับมือไว้ในหลายส่วนด้วยกัน โดยเริ่มจากการนำเสนอสิ่งที่เป็นผลกระทบต่อผู้ประกอบการรับสร้างบ้าน ในที่ประชุมกรรมการสมาคมการค้ากลุ่มอสังหาริมทรัพย์ออกแบบและก่อสร้าง สภาหอการค้าแห่งประเทศไทย เพื่อประเมินสถานการณ์ และเพื่อให้มองภาพรวมของตลาดชัดเจนขึ้นในทิศทางเดียวกัน นอกจากนี้ทางสมาคมฯ จะพยายามรวบรวมข้อมูลการตลาดเพื่อส่งเข้าไปร่วมกับศูนย์ข้อมูลอสังหาฯ ซึ่งจะทำให้ภาครัฐเห็นตลาดบ้านสร้างเองที่มีมูลค่ารวมทั้งประเทศถึงประมาณปีละ 200,000 ล้านบาท คิดเป็นสัดส่วนประมาณ 20-25% ของตลาดอสังหาริมทรัพย์รวมทั้งประเทศ

“ถ้ามีการกระตุ้นจากมาตรการของภาครัฐจะทำให้มีการหมุนเวียนของตลาดมูลค่า 200,000 ล้านบาท ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งในการช่วยขับเคลื่อนเศรษฐกิจทั้งระบบของประเทศได้” วรวุฒิ กล่าว

ในส่วนของนโยบายการทำงานของสมาคมธุรกิจสร้างบ้านที่จะทำให้ให้เกิดความยั่งยืนนั้น ทางสมาคมฯได้มีแนวทางในการดูแลสมาชิกทุกๆ บริษัทอย่างเต็มที่ รวมทั้งให้การสนับสนุนการเชื่อมความสัมพันธ์ที่ยั่งยืนภายในสมาคมฯแก่เหล่าสมาชิก สร้างมาตรฐานการก่อสร้างที่ตอบสนองแก่ผู้บริโภค โดยมีหน่วยงานภาครัฐ ภาคเอกชน คณะวิศวกรรมศาสตร์จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ผู้เชี่ยวชาญมาร่วมทำมาตรฐานร่วมกัน เพื่อลดข้อโต้แย้งในกระบวนการรับสร้างบ้าน ระหว่างผู้ประกอบการรับสร้างบ้านเองและผู้บริโภคลงคาดว่ามาตรฐานจะแล้วเสร็จในช่วงเดือนเมษายน พ.ศ.2565

ด้านอนันต์กร อมรวาที อุปนายกฝ่ายกิจกรรมพิเศษ สมาคมธุรกิจรับสร้างบ้านกล่าวว่า รูปแบบการรับสร้างบ้านในปัจจุบันจะเป็นแบบโมเดิร์น ลักชัวรี่ มากขึ้นตามช่วงอายุวัสดุก่อสร้างที่ประหยัดพลังงาน มีที่ติดตั้งชาร์จรถไฟฟ้า EV ใช้วัสดุทดแทนวัสดุธรรมชาติมากขึ้น มีฟังก์ชั่นใช้งานเป็นสัดส่วน เปิดแอร์ เปิดห้อง เปิดประตูบ้านควบคุมด้วยสมาร์ทโฟนเทคโนโลยีที่ทันสมัยตามความชอบของผู้บริโภคแต่ละครอบครัว รวมทั้งการก่อสร้างแบ่งพื้นที่ทำงานเป็นสัดส่วนภายในบ้านรองรับการทำงาน Work From Home ด้วย

ในปีนี้ สมาคมฯ ได้จัด งานรับสร้างบ้านและวัสดุ FOCUS 2022 ภายใต้แนวคิด “ฉีกทุกข้อจำกัดของการสร้างบ้าน” ตอบโจทย์ทุกความต้องการเรื่องบ้าน ระหว่างวันที่ 30 มีนาคม ถึง 3 เมษายน พ.ศ.2565 ณ ฮอลล์ 8 อิมแพค เมืองทองธานี 

งานครั้งนี้มีบริษัทรับสร้างบ้านร่วมออกบูทมากถึง 24 บริษัท ไม่ว่าจะเป็นบริษัทชั้นนำในพื้นที่กรุงเทพ ปริมณฑล อุดรธานีและจันทบุรี นำแบบบ้านทุกระดับราคา สร้างได้ตามงบประมาณตั้งแต่ 1-100 ล้านบาท คาดว่าจะมีผู้ชมงานประมาณ 2,000-3,000 ต่อวัน และคาดว่าจะมียอดจองบ้านภายในงานจะใกล้เคียงปีพ.ศ.2564 ที่ผ่านมาประมาณ 2,100 ล้านบาท

ในส่วนของโปรโมชั่นพิเศษที่นำมาเสนอภายในงาน จะมีสินเชื่อพิเศษจากสถาบันการเงิน หากลงทะเบียนเข้าร่วมงานล่วงหน้า จะได้รับแบบบ้านใหม่พร้อมแปลน ในรูปแบบ e-book สำหรับ 5,000 คนแรกที่เข้าร่วมงาน มีคูปองส่วนลดสูงสุด 10,000 บาท สำหรับผู้สนใจเข้าร่วมงานที่ลงทะเบียนภายในวันที่ 15 มีนาคม พ.ศ.2565

สำหรับมาตรการความปลอดภัยในการจัดงาน คณะผู้จัดงานได้ปฎิบัติตามมาตรการดูแล COVID-19 โดยคำนึงถึงความปลอดภัยสูงสุด พร้อมแบ่งมาตรการดูแลความปลอดภัยออกเป็น 4 มาตรการหลัก 1.ด้านวัคซีน คณะผู้จัดงานรับวัคซีน 2 เข็ม ผู้เข้าร่วมงานตรวจวัดอุณหภูมิก่อนเข้าร่วมงาน 2.ด้านการป้องกันตามมาตฐานสากล เว้นระยะห่าง ตามมาตรการ Social Distancing พร้อมสวมหน้ากากอนามัยตลอดเวลา3.ด้านการจัดการสถานที่ ต้องเป็นสถานที่ปลอดเชื้อโรค ผ่านการรับรองมาตรฐานความปลอดภัยด้านสุขอนามัย และ4.ด้านการตรวจหาเชื้อด้วยชุด Antigen Test Kit (ATK) คณะผู้จัดงานต้องได้รับวัคซีนครบ 2 เข็ม และตรวจ ATK ก่อนเข้างานไม่เกิน 48 ชั่วโมง เพื่อความปลอดภัยของทุกท่านที่เข้าร่วมชมงานตลอดการจัดงานในทุกๆ วัน