Thursday, November 21, 2024
Latest:
Property

ESTAR โชว์ยอดขาย Q1 กว่า 510 ล้านบาท รุกขยายพอร์ตเพิ่มเปิดตัว 3 โครงการใหม่ มูลค่ารวมกว่า 1,600 ล้านบาท คาดรายได้สิ้นปีโตเพิ่มขึ้นกว่า 40%

บริษัท อีสเทอร์น สตาร์ เรียล เอสเตท จำกัด (มหาชน) หรือ ESTAR เผยผลงานไตรมาส 1 ปี 2567 ดันยอดขายโตทะลุกว่า 510 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 75% เทียบกับช่วงเวลาเดียวกันในปีที่ผ่านมา(QoQ) พร้อมเปิดแผนกลยุทธ์ปี 2567 รุกพัฒนาบ้านและทาวน์โฮม พรีเมียมรองรับตลาดกลางและบน เตรียมเปิดตัว 3 โครงการใหม่ที่ระยองและกรุงเทพ มูลค่ารวมกว่า 1,600 ล้านบาท ปักธงรับรู้รายได้สิ้นปีโตเพิ่มขึ้นกว่า 40%

ไพโรจน์ วัฒนวโรดม กรรมการผู้จัดการ บริษัท อีสเทอร์น สตาร์ เรียล เอสเตท จำกัด (มหาชน) หรือ ESTAR เปิดเผยว่า ในปี 2566 ที่ผ่านมา ยังเป็นปีที่ ESTAR เติบโตอย่างสดใส โดยบริษัทฯ ได้พัฒนาโครงการที่อยู่อาศัย ไม่ว่าจะเป็น คอนโดมิเนียม บ้านเดี่ยว บ้านแฝด และบ้านระดับลักชัวรี (Luxury) เพื่อตอบโจทย์ลูกค้าในหลากหลายเซ็กเมนต์ บนทำเลศักยภาพสูงทั้งในโซนกรุงเทพ และจังหวัดระยองที่เป็นดาวเด่น เนื่องจากมีนิคมอุตสาหกรรม สนามบิน นานาชาติ อู่ตะเภา และประชากรอาศัยอยู่อย่างหนาแน่น อีกทั้งยังมีเส้นทางคมนาคมที่หลากหลายเส้นทาง

ในปีที่ผ่านมาบริษัทฯ ได้เปิดตัวโครงการใหม่ ทั้งแนวราบและคอนโดมิเนียม สามารถทำยอดขายปี 2566 ได้ถึง 1,580 ล้านบาทซึ่งเติบโตกว่า 30% เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันในปีที่ผ่านมา สูงทะลุเป้าที่วางไว้ อีกทั้งในไตรมาสแรกของปี2567 บริษัทฯ ยังสามารถดันยอดขายนิวไฮ แตะถึง 510 ล้านบาท ซึ่งเติบโตเพิ่มขึ้นถึง 75% เมื่อเปรียบเทียบกับไตรมาสแรกของปี 2566 ที่มูลค่าเพียง 292 ล้านบาท ขณะที่ยอดโอนไตรมาสแรกของปี2567 อยู่ที่ 300 ล้านบาท โตเพิ่มขึ้น 21% เทียบกับช่วงเวลาเดียวกันในปีที่ผ่านมา โดยแบ่งสัดส่วน ยอดขายโครงการในกรุงเทพ ทั้งแนวสูงและแนวราบ ไตรมาสแรก มูลค่ากว่า 400 ล้านบาท ซึ่งมียอดโอนที่ 165 ล้านบาท สำหรับยอดขายโครงการแนวราบใน อ.บ้านฉาง จ.ระยอง จะอยู่ที่กว่า 109 ล้านบาท มียอดโอนที่ มูลค่า 135 ล้านบาท

“ทิศทางอสังหาริมทรัพย์ในปี 2567 นี้ ยังมีทั้งโอกาสและความเสี่ยง โดยปัจจัยที่จะเข้ามาช่วยกระตุ้นกำลังซื้อภาคอสังหาริมทรัพย์ให้ดีขึ้นได้ หลักๆ เป็นการลดอัตราดอกเบี้ยเงินกู้สินเชื่อบ้าน จากทางภาครัฐ รวมถึงมาตรการลดค่าโอนกรรมสิทธิ์และค่าจดจำนองเหลือ 0.01% ซึ่งยังเป็นแรงส่งที่ดีที่ทำให้ตลาดอสังหาริมทรัพย์กลับมาคึกคักอีกครั้ง” ไพโรจน์ กล่าว

สำหรับแนวทางการพัฒนาโครงการในปีนี้ บริษัทฯ ยังคงประเมินตามทิศทางภาพรวมของตลาดล่วงหน้า โดยฝ่าหลายปัจจัย อาทิ หันมาจับกลุ่มตลาดกลาง-บน มากขึ้น โดยเน้นสร้างบ้านราคา 20 ล้านบาทขึ้นไป เนื่องจากกลุ่มนี้ยังมีดีมานด์ต่อเนื่องและยังมีกำลังซื้อได้แม้อัตราดอกเบี้ยจะขยับตัว นอกจากนี้ยังจับกลุ่มชาวต่างชาติเพิ่มขึ้น ไม่ว่าจะเป็น ชาวจีน ไต้หวัน รัสเซีย และเมียนมาที่กำลังเผชิญปัญหาความขัดแย้งและความมั่นคงภายในประเทศ ซึ่งลูกค้ากลุ่มนี้ยังสนใจอสังหาริมทรัพย์ไทย เนื่องจากราคาอสังหาริมทรัพย์ของไทยไม่แพงเมื่อเทียบกับประเทศอื่นๆ ทำให้กลุ่มชาวต่างชาติยังคงทยอยเข้ามาซื้อเพื่ออยู่อาศัย ลงทุนปล่อยเช่า รวมทั้งเข้ามาร่วมทุนพัฒนาโครงการฯ

ไพโรจน์ กล่าวว่า ใรปี 2567 บริษัทฯ เตรียมเปิดตัว 3 โครงการใหม่ในช่วงไตรมาสแรก -ไตรมาสที่สาม มูลค่ารวมกว่า 1,600 ล้านบาท แบ่งออกเป็นทำเลโซน บ้านฉาง จังหวัดระยอง จำนวน 2 โครงการ ได้แก่ โครงการบ้านเดี่ยว VELANA HYDE อู่ตะเภาบ้านฉาง ระยอง เป็นโครงการบ้านเดี่ยว 2 ชั้น 128 หลัง ราคาเริ่มต้น 5-9 ล้านบาท มูลค่าโครงการประมาณ 800 ล้านบาท โดยเน้นกลุ่มเป้าหมายระดับ Mid-High Level ซึ่งบริษัทฯ ได้ต่อยอดจากความสำเร็จของโครงการ Velana Amoda ที่ผ่านมา ในทำเลเดียวกัน โดยวางคอนเซ็ปต์ Luxury Classic สะท้อนความงดงาม สมบูรณ์แบบของการใช้ชีวิต โดยการออกแบบตัวบ้านและโครงการได้รับแรงบันดาลใจจาก สถาปัตยกรรมยุโรป เฟสแรกทั้งหมด 19 ห้อง Sold outแล้ว 100%

โครงการบ้านเดี่ยว GRAND VELANA POOL VILLA บ้านฉาง ระยอง จำนวน 6 หลัง มูลค่าโครงการ 120 ล้านบาท ราคาเริ่มต้น 15 ล้านบาท เปิดตัวไตรมาสแรกในเดือนมีนาคม โดยวางคอนเซ็ปต์ บ้านหรูสไตล์รีสอร์ท การพักผ่อนที่เหนือระดับใจกลางสนามกอล์ฟ รายล้อมด้วยสังคมคุณภาพ รองรับลูกค้าระดับผู้บริหารที่ทำงานบริษัทในนิคมฯ มาบตาพุด กลุ่มบุคลากรทางการแพทย์ และเจ้าของกิจการ รวมถึงลูกค้าในบริเวณบ้านฉาง ซึ่งถือว่ามีกำลังซื้อศักยภาพสูง และโอกาสReject Rate อยู่ในเปอร์เซ็นต์ที่น้อยมาก ขณะนี้มียอดจอง5 หลัง คิดเป็น 90% ส่วนใหญ่ลูกค้าเป็นเจ้าของธุรกิจในระยองและ บ้านฉาง ในที่นี้มีต่างชาติที่เป็นชาติอังกฤษ ซื้อในนามบริษัทด้วย ทั้งนี้ ESTAR เตรียมวางแผนให้บ้านฉางเป็นเรือธง โครงการมีมูลค่า 1,000 ล้านบาท โดยปรับราคาโครงการบ้านในสนามกอล์ฟ ที่10 ล้านบาท และนอกโซนที่ 5 ล้านบาท

ส่วนในพื้นที่กรุงเทพฯ มี1 โครงการ ได้แก่ โครงการ ESTON ลาดกระบังสุวรรณภูมิ ทาวน์โฮม 2-3 ชั้น จำนวน 160 ยูนิต พื้นที่ 16 ไร่ มูลค่า 700 ล้านบาท ราคาเริ่มต้นที่ 3.29-5 ล้านบาทขึ้นไป วางคอนเซ็ปต์ (Concept) British Georgian กลิ่นอายสไตล์อังกฤษ บนทำเลศักยภาพใกล้สนามกอล์ฟ Royal ลาดกระบัง เชื่อมต่อทุกการเดินทางได้อย่างสะดวกสบาย ใกล้สนามบินนานาชาติ สุวรรณภูมิ ในราคาเริ่มต้นที่ 3.29-5 ล้านบาทขึ้นไป ซึ่งทาง ESTAR ตั้งใจพัฒนาเพื่อรองรับกลุ่มลูกค้า ไม่ว่าจะเป็นพนักงานที่ทำงานในพื้นที่สนามบินสุวรรณภูมิ นิคมอุตสาหกรรมลาดกระบัง พระราม 9 และศรีนครินทร์ ที่มองหาบ้านที่ไม่ไกลจากแหล่งงานและที่อยู่เดิม วางแผนเปิดตัวในไตรมาสที่ 3 ของปีนี้

จากผลสำรวจของศูนย์ข้อมูลอสังหาริมทรัพย์ (REIC) พบว่า ตัวเลขคาดการณ์ 12 เดือนในปี 2566 ที่อยู่อาศัยระดับราคาไม่เกิน 3 ล้านบาท มีปัญหา ตัวเลขการโอนกรรมสิทธิ์ลดลง 10%  สำหรับโครงการของ ESTON 3-5 ล้านบาท ไม่มีปัญหามาก เนื่องจากทำเลที่ตั้งโครงการ QUINTARA สุขุมวิท 39 พร้อมพงษ์ โพธิ์นิมิตร และรัชดาภิเษก 12 ห่างจากถนนใหญ่ 90 เมตร

“ปี 2567 สัดส่วนคอนโดมิเนียมอยู่ที่ 37% จากเดิม 70% ส่วนแนวราบกว่า 60% ตอนนี้ปรับ Segment แนวราบมากขึ้น เพิ่มบ้านระดับราคา 20 ล้านบาทมากขึ้น ในปีนี้บริษัทฯ มีแผนซื้อที่ดิน 2-3 แปลง ปัจจุบันซื้อที่ดิน 1 แปลงในกรุงเทพฯ จะเปิดตัวโครงการในปลายปี 2568 โดยใช้เวลานับตั้งแต่ซื้อที่ดิน 10-11 เดือนสามารถโอนให้ลูกค้า ความเร็วจึงเป็นเรื่องที่สำคัญมาก ส่วนต่างจังหวัดมองที่ระยอง ดู Location ที่รองลงมาเทียบกับอำเภอบ้านฉาง พร้อมผลักดันโครงการในมือ รวมทั้งสิ้น 11 โครงการ ในปีนี้ทั้งหมด5,600 ล้านบาท แบ่งเป็นโซนกรุงเทพฯ 70% มูลค่า 4,000 ล้านบาท และบ้านฉาง ระยอง 30% ทั้งหมด 5 โครงการ มูลค่า 1,600 ล้านบาท ” ไพโรจน์ กล่าว

ในปีนี้บริษัทฯ ตั้งเป้ายอดขายกว่า 2,000 ล้านบาท และเป้าหมายรับรู้รายได้อยู่ที่กว่า 1,700 ล้านบาท โดยขณะนี้บริษัทฯ มียอดรอรับรู้รายได้แล้ว สำหรับโครงการประเภทคอนโดมีเนียมทำเลใจกลางกรุงเทพ รวมมูลค่ากว่า 600 ล้านบาท ไตรมาสที่ 4 มี Backlog 1,000 ล้านบาท โดยจะเริ่มทยอยโอนโครงการในไตรมาสที่ 3 และ 4 ” ไพโรจน์ กล่าวทิ้งท้าย