“20 ปี แอสเซทไวส์” ชูกลยุทธ์ “Growing Success, Growing Happiness” ปั้น 10 โครงการใหม่ 22,000 ล้านบาท พร้อมรุกภูเก็ต มั่นใจรถไฟฟ้า 20 บาทหนุนธุรกิจโต
“แอสเซทไวส์” โชว์วิสัยทัศน์ครบรอบ 20 ปี “Growing Success, Growing Happiness” มุ่งสร้างการเติบโตอย่างยั่งยืน กางแผนเปิดโครงการใหม่คอนโดมิเนียมและบ้าน 10 โครงการ มูลค่ารวม 22,000 ล้านบาท ขยายพอร์ตภูเก็ตรุกตลาดวิลล่าหรูครั้งแรก ตั้งเป้ายอดขายรวม 19,500 ล้านบาท และเป้ารายได้ 10,500 ล้านบาท รุกลงทุนธุรกิจใหม่ที่มีศักยภาพ ทั้งเอนเตอร์เทนเมนต์-คอมมูนิตี้มอลล์-Health & Wellness เดินหน้า ESG จับมือพันธมิตรดูแลการศึกษาเยาวชน พร้อมเปิดตัวพรีเซนเตอร์ “โต๋-ไบรท์” ถ่ายทอดตัวตนแบรนด์ส่งมอบความสุข ตอกย้ำแนวคิด We Build Happiness
![](https://www.constructionthailand.net/wp-content/uploads/2025/02/ASSET-WISE-Growing-Success-Growing-Happiness_02.jpg)
กรมเชษฐ์ วิพันธ์พงษ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท แอสเซทไวส์ จำกัด (มหาชน) หรือ ASW บริษัทพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ที่เป็นผู้นำด้านไลฟ์สไตล์ กล่าวว่า ในโอกาสก้าวสู่ปีที่ 20 แอสเซทไวส์มุ่งสร้างการเติบโตอย่างยั่งยืนและมั่นคง ผ่านแผนธุรกิจ “Growing Success, Growing Happiness” เพื่อส่งมอบความสุขให้กับผู้บริโภคผ่านโครงการที่อยู่อาศัยคุณภาพ ซึ่งเป็นการเดินหน้าต่ออย่างมั่นคงจากปี 2567 ที่บริษัทฯ สามารถทำยอดขายปี 2567 ได้ถึง 19,330 ล้านบาท สูงเกินกว่าเป้าที่ตั้งไว้ที่ 17,800 ล้านบาท เติบโตขึ้นกว่า 17% เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า
อย่างไรก็ตาม ภาพรวมเศรษฐกิจทั่วโลกในปี 2568 มีความท้าทายจากปัญหาภูมิรัฐศาสตร์ และการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศ แต่ยังคงมีปัจจัยบวกจากแนวโน้มดอกเบี้ยขาลงที่ช่วยกระตุ้นการผลิตการลงทุน ไปจนถึงเทรนด์รักสุขภาพและ Aging Society ทำให้ธุรกิจ Health & Wellness เติบโตขึ้น สำหรับประเทศไทยเองได้รับแรงสนับสนุนจากภาคการส่งออกที่ส่งสัญญาณดีขึ้น การเข้ามาลงทุน Data Center ของบริษัทระดับโลก ซึ่งจะทำให้เกิดการจ้างงานทั้งคนในประเทศและ Expats ขณะที่ภาคการท่องเที่ยว จำนวนนักท่องเที่ยวยังคงมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ทั้งหมดนี้จะช่วยเพิ่มกำลังซื้อของคนในประเทศและกระตุ้นแรงซื้อจากชาวต่างชาติ โดยเฉพาะสินค้ากลุ่มคอนโดมิเนียม แอสเซทไวส์จึงเดินหน้าธุรกิจภายใต้กลยุทธ์ “Growing Success, Growing Happiness” ควบคู่กับสร้างการเติบโตอย่างยั่งยืนและมั่นคง
![](https://www.constructionthailand.net/wp-content/uploads/2025/02/ASSET-WISE-Growing-Success-Growing-Happiness_03.jpg)
ในปี 2568 แอสเซทไวส์เดินหน้าพัฒนาโครงการที่อยู่อาศัยบน Strategic Location ทั่วกรุงเทพฯ ปริมณฑล และภูเก็ต ครอบคลุมหลากหลายเซ็กเมนต์ โดยวางแผนเปิดโครงการใหม่ 10 โครงการ มูลค่ารวม 22,000 ล้านบาท แบ่งเป็นโครงการคอนโดมิเนียม 8 โครงการ มูลค่ารวม 20,500 ล้านบาท ผ่านแบรนด์หลักอย่าง KAVE, ATMOZ และ MODIZ พร้อมสานต่อความสำเร็จของโครงการ Leisure Residences ในภูเก็ตแบรนด์ THE TITLE ภายใต้การดำเนินงานของบริษัท ร่มโพธิ์ พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด (มหาชน) หรือ TITLE ในเครือแอสเซทไวส์ และโครงการแนวราบ 2 โครงการ มูลค่ารวม 1,500 ล้านบาท และเตรียมขยายแบรนด์ THE TITLE สู่โครงการ Luxury Villa เป็นครั้งแรกอีก 2 โครงการบนทำเลหาดในยางและเชิงทะเล
![](https://www.constructionthailand.net/wp-content/uploads/2025/02/ASSET-WISE-Growing-Success-Growing-Happiness_04.jpg)
กรมเชษฐ์ กล่าวถึงเป้าหมายยอดขายและรายได้ในปี 2568 ว่า บริษัทฯ ตั้งเป้าหมายยอดขายอยู่ที่ 19,500 ล้านบาท และเป้าหมายรายได้ 10,500 ล้านบาท เติบโต 20% จากปี 2567 ขณะเดียวกัน แอสเซทไวส์ยังมีโครงการสร้างเสร็จใหม่พร้อมโอนกรรมสิทธิ์ในปี 2568 ซึ่งเป็นโครงการคอนโดมิเนียมทั้งหมด 7 โครงการ มูลค่ารวม 14,050 ล้านบาท และปัจจุบันบริษัทฯ มียอดขายรอรับรู้รายได้ (Backlog) สิ้นปี 2567 มูลค่ารวมกว่า 25,200 ล้านบาท แบ่งสัดส่วนเป็นโครงการในกรุงเทพฯ ปริมณฑล จำนวน 12,600 ล้านบาท โครงการในทำเลเขตเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก (EEC) จำนวน 2,700 ล้านบาท และโครงการในภูเก็ตอีกกว่า 9,900 ล้านบาท ซึ่งจะทยอยรับรู้รายได้สร้างความแข็งแกร่งให้บริษัทฯ อย่างต่อเนื่องจนถึงปี 2570
ทั้งนี้บริษัทฯ ยังขยายโอกาสทางธุรกิจใหม่ เพื่อเพิ่มสัดส่วนรายได้ต่อเนื่อง (Recurring Income) โดยเน้นลงทุนในธุรกิจที่มีศักยภาพ และเชื่อมโยงกับไลฟ์สไตล์ของคนทุกเจเนอเรชันผ่านบริษัทย่อยในเครือ เริ่มจากธุรกิจ Health & Wellness ผ่าน WHB ให้บริการ Rocket Fitness ฟิตเนสทางเลือกใหม่ในราคาและทำเลเข้าถึงง่าย และ Vitala คลินิกกายภาพบำบัดและฟื้นฟูร่างกาย มีแผนขยายสาขาต่อเนื่อง ธุรกิจเอนเตอร์เทนเมนต์ ผ่าน ZAAP World ในการจัดคอนเสิร์ตและอีเวนต์ต่างๆ โดยในปีที่ผ่านมาได้จัดคอนเสิร์ตและอีเวนต์ไปแล้วกว่า 40 งาน อาทิ SangSom MOONLAB งานอาร์ตแลนด์มาร์กที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของปี, SkyTrain Music Fest เทศกาลดนตรีบนรถไฟฟ้าครั้งเเรกในเอเชีย เป็นต้น ธุรกิจคอมมูนิตี้มอลล์และรีเทล ผ่าน Treasure M โดยพัฒนา Mingle Mall แหล่งไลฟ์สไตล์ที่รวมร้านค้า ร้านอาหาร ศูนย์กีฬาในร่ม ล่าสุดได้เปิด “Mingle Naiyang” จังหวัดภูเก็ต
![](https://www.constructionthailand.net/wp-content/uploads/2025/02/ASSET-WISE-Growing-Success-Growing-Happiness_05.jpg)
กรมเชษฐ์ กล่าวว่า แอสเซทไวส์ยังมุ่งสร้างความสุขอย่างยั่งยืนให้กับสังคม ลูกค้า และ Stakeholder ทั้งด้านสิ่งแวดล้อม นำแนวคิด GrowGreen ซึ่งเริ่มในปี 2563 มาปฏิบัติจริงในองค์กร โครงการที่อยู่อาศัย และขยายผลสู่ชุมชนต่างๆ ด้านสังคม โดยร่วมกับมูลนิธิก้าวคนละก้าว ซึ่งมีตูน-อาทิวราห์ คงมาลัย เป็นประธานมูลนิธิฯ โดยสนับสนุนเงินจำนวน 10 ล้านบาท ให้กับโครงการ “ก้าวเพื่อน้องปีที่ 5” ช่วยเหลือเด็กและเยาวชนที่หลุดออกจากระบบการศึกษา ผ่านกองทุนเพื่อความเสมอภาคทางการศึกษา (กสศ.) ไปจนถึงยกระดับคุณภาพชีวิตผ่านโครงการ PUNN by AssetWise ไม่ว่าจะเป็นโครงการรับบริจาคของมือสองสภาพดีเพื่อนำไปหารายได้มอบเป็นทุนการศึกษา และด้านบรรษัทภิบาล มุ่งมั่นดำเนินธุรกิจด้วยความโปร่งใส เป็นธรรม ทำให้บริษัทติดอันดับหุ้นยั่งยืน SET ESG Ratings ประจำปี 2567 ในระดับ AA
![](https://www.constructionthailand.net/wp-content/uploads/2025/02/ASSET-WISE-Growing-Success-Growing-Happiness_06.jpg)
ในโอกาสพิเศษนี้บริษัทฯ ยังเปิดตัวพรีเซนเตอร์ โต๋–ศักดิ์สิทธิ์ เวชสุภาพร และไบรท์–พิชญทัฬห์ จันทร์พุฒ มาร่วมสะท้อนตัวตนของแบรนด์แอสเซทไวส์ และถ่ายทอดแนวคิด “การสร้างความสุข ให้ทุกจังหวะของชีวิต” ที่ตั้งใจส่งมอบความสุขผ่านการพัฒนาโครงการที่อยู่อาศัยคุณภาพแบรนด์ต่างๆ ในเครือ
“สำหรับภาพรวมตลาดอสังหาริมทรัพย์ในปี 2568 นี้ เนื่องจากบ้านเป็นสิ่งจำเป็น อาจมีการชะลอตัวบ้างในบางทำเล ในขณะเดียวกัน บางทำเลยังไม่มีโครงการขึ้น ดังนั้นการดำเนินธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ในปีนี้ จะต้องละเอียดรอบคอบ Developer จะต้องเข้าใจธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ สินค้าที่เราทำเป็น Asset ที่มีความมั่นคงและเป็นหลักประกัน แอสเซทไวส์มีความเชี่ยวชาญด้าน Low Riseนับตั้งแต่แอสเซทไวส์เข้าตลาดหลักทรัพย์ฯ บริษัทฯ มี Margin เติบโต 15% มาโดยตลอด
เป็น Affordable Price ตาม Real Demand สามารถพัฒนาสินค้าให้ตอบโจทย์ความต้องการ เนื่องจาก Port ของแอสเซทไวส์ส่วนใหญ่อยู่ที่กรุงเทพฯ และปริมณฑล การที่รัฐบาลมีโครงการรถไฟฟ้า 20 บาทตลอดสาย เชื่อว่าจะทำให้กรุงเทพฯ หลวมขึ้น การลงทุนจะกระจายไปภายนอกมากขึ้น และทำให้ค่าครองชีพลดลง รวมทั้งการส่งเสริมระบบรางหลายแสนล้านบาท และสนับสนุนการใช้รถ EV น่าจะส่งผลดีให้ธุรกิจของแอสเซทไวส์เติบโตมากขึ้น” กรมเชษฐ์ กล่าวทิ้งท้าย