“แอลฟา” ลงเสาเอกคลังสินค้าแห่งใหม่ “แอลฟา บางนา กม.19” พื้นที่ 8 หมื่น ตร.ม.
“แอลฟา อินดัสเทรียล โซลูชั่น” เร่งเดินหน้าทำตามแผน 5 ปี ขยายอาณาจักรคลังสินค้าทำเลศักยภาพต่อเนื่อง ปักหมุดลงเสาเอกคลังสินค้าแห่งใหม่ “แอลฟา บางนา กม.19” มูลค่า REIT กว่า 1,270 ล้านบาท พื้นที่เช่ากว่า 80,000 ตร.ม. ชูจุดเด่นทำเลติดถนนใหญ่-ใกล้กรุงเทพฯ-มีโซลูชั่นรองรับงานคลังสินค้าที่ซับซ้อน ช่วยลดต้นทุนการบริหารจัดการของผู้เช่า ลูกค้าไทย-ต่างชาติแห่เซ็นสัญญาเพียบ รอจบดีลแปลงสุดท้าย คาดก่อสร้างแล้วเสร็จ Q4 ปึ 2566 ด้าน “เอสซีจีเจดับเบิ้ลยูดี” เล็งเห็นศักยภาพปักหมุดสร้างศูนย์กระจายสินค้าแบบ Built-to-Suit พื้นที่กว่า 18,504 ตร.ม. รองรับสินค้า High Value-สินค้าอิเล็กทรอนิกส์-สินค้าอาหารมาตรฐาน GMP
ปธาน สมบูรณสิน ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท แอลฟา อินดัสเทรียล โซลูชั่น จำกัด หรือ ALPHA ผู้พัฒนาธุรกิจอสังหาริมทรัพย์เพื่อการอุตสาหกรรมพร้อมบริการครบวงจร ภายใต้การร่วมทุนระหว่างบริษัท ออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด (มหาชน) หรือ ORI และบริษัท เอสซีจี เจดับเบิ้ลยูดี โลจิสติกส์ จำกัด (มหาชน) หรือ SCGJWD เปิดเผยว่าบริษัทฯ เริ่มเดินหน้าทำพิธีลงเสาเอกโครงการคลังสินค้า แอลฟา บางนา กม.19 (ALPHA Bangna KM.19) มูลค่า REIT ประมาณการ 1,270 ล้านบาท หนึ่งในโครงการร่วมทุนกับบริษัท โตคิว แลนด์ เอเชีย จำกัด พันธมิตรยักษ์ใหญ่ด้านอสังหาริมทรัพย์จากญี่ปุ่น ตามแผนงาน 5 ปีที่มุ่งพัฒนาโรงงานและคลังสินค้าในทำเลยุทธศาสตร์ให้ได้รวม 1 ล้าน ตร.ม.
ตัวโครงการตั้งอยู่บนที่ดินกว่า 78 ไร่ บน ถ.เลียบคลองส่งน้ำสุวรรณภูมิ ที่มีความโดดเด่นด้านทำเล ถือได้ว่าเป็นพื้นที่ยุทธศาสตร์สำคัญด้านการขนส่ง มีพื้นที่เช่ากว่า 80,000 ตร.ม.
สำหรับทำเลที่ตั้งของ แอลฟา บางนา กม.19 มีความโดดเด่นหลายด้าน อาทิ อยู่ใกล้กรุงเทพฯ เพียง 20 กม. ติดถนนใหญ่เส้นหลัก รถบรรทุกขนาดใหญ่สามารถเข้า-ออกได้สะดวก การจราจรคล่องตัว ขณะที่รูปแบบโครงการ เน้นการสร้างตามความต้องการ (Built-to-Suit) รองรับความต้องการคลังสินค้าของลูกค้ารายใหญ่ พร้อมทั้งมีโซลูชันพร้อมรองรับการดำเนินกิจกรรมที่หลากหลายและซับซ้อนในคลังสินค้า อาทิ ระบบการหยิบสินค้า (Picking) การบรรจุสินค้า (Packaging) การติดสติ๊กเกอร์ (Stickering) การตรวจแยกประเภท (Sorting) บริการคลังสินค้าพร้อมจัดส่ง (Fulfillment)
“เรานำประสบการณ์กว่า 20 ปีของเรา มาคัดเลือกทำเลยุทธศาสตร์ที่รองรับการขนส่งได้ดี และใช้ความเข้าใจความต้องการของลูกค้ามาพัฒนาโซลูชันที่อำนวยความสะดวกการทำงาน และช่วยลดต้นทุนการดำเนินกิจกรรมต่างๆ ในคลังสินค้า ทำให้แอลฟา บางนา กม.19 ได้รับการตอบรับอย่างยอดเยี่ยมจากทั้งลูกค้าไทยและต่างชาติจำนวนมาก ปัจจุบันกำลังอยู่ระหว่างเจรจาที่ดินแปลงสุดท้ายในโครงการกับลูกค้าต่างชาติรายหนึ่ง คาดว่าตัวโครงการจะเริ่มทยอยส่งมอบได้ในช่วงไตรมาส 4/2566 นี้” นายปธาน กล่าว
ด้านณัฐภูมิ เปาวรัตน์ ผู้อำนวยการอาวุโสฝ่ายการค้า พัฒนาธุรกิจและการลงทุน บริษัท เอสซีจี เจดับเบิ้ลยูดี โลจิสติกส์ จำกัด (มหาชน) หรือ SCGJWD กล่าวว่า บริษัทฯ ได้ลงนามข้อตกลงให้บริษัท แอลฟา อินดัสเทรียล โซลูชั่น จำกัด พัฒนาโครงการศูนย์กระจายสินค้า (Logistics Center) แบบ Built-to-Suit พื้นที่ขนาด 18,504 ตร.ม.ในโครงการแอลฟา บางนา กม.19 รองรับการให้บริการจัดเก็บสินค้าทั่วไปนอกจากกลุ่มสินค้าปัจจุบัน สินค้าที่มีมูลค่าสูง (High Value Product) รวมไปถึงสินค้าที่ต้องการการดูแลเป็นพิเศษ เช่น สินค้าอิเล็กทรอนิกส์ สินค้าอาหารที่ต้องการมาตรฐาน GMP และยังเป็นพื้นที่นำสินค้ามาพักเพื่อกระจายในประเทศ และเพื่อบรรจุตู้ส่งออก ทั้งยังครอบคลุมการให้บริการเสริมอื่นๆ ตามที่ลูกค้าต้องการ (Value added Service)
“ที่ตั้งของโครงการอยู่ใกล้ศูนย์กลางโลจิสติกส์ที่สำคัญ ทั้งสนามบิน ท่าเรือ และเชื่อมผ่านเส้นทางถนนสายหลัก ซึ่งเป็นจุดเชื่อมโยงฐานการผลิตและการขนส่งสินค้าในทุกๆ รูปแบบการขนส่ง สามารถให้บริการกระจายสินค้าสู่ภูมิภาคแบบ End-to-End Solution โดยใช้ Network ครอบคลุมทั่วประเทศของเครือ SCGJWD” ณัฐภูมิ กล่าว
ทั้งนี้ ศูนย์กระจายสินค้าดังกล่าว จะใช้การบริหารคลังที่เป็นมาตรฐานเดียวกันทั้งกลุ่ม เพื่อให้ลูกค้าของ SCGJWD มั่นใจในการให้บริการและมาตรฐานที่จะได้รับ เน้นขยายการให้บริการกับฐานลูกค้าเดิมที่เติบโตอย่างต่อเนื่อง และตอบรับลูกค้าใหม่ที่มีความต้องการเข้ามาอย่างต่อเนื่องเช่นกัน พร้อมทั้งมีพื้นที่รองรับการขยายในอนาคต ในบริเวณนี้เพิ่มเติม