แทรนดาร์คาดอาคารเพื่อสิ่งแวดล้อมปี’65 โต 20%ตามเทรนด์โลก พร้อมเปิดนวัตกรรม อีโคโฟน โฟกัส เอฟ อะคูสติกดูดซับเสียงคุณภาพสูง ลดมลพิษทางเสียง-สารก่อภูมิแพ้
แทรนดาร์ อะคูสติก ผู้นำนวัตกรรมอะคูสติก เปิดผลวิจัย Sound effect on people มลพิษทางเสียงปัญหาสิ่งแวดล้อมที่ส่งผลต่อประสิทธิภาพการทำงานถดถอย สุขภาพผู้ใช้อาคารแย่ลง พร้อมเปิดตัว“อีโคโฟน โฟกัส เอฟ” (Ecophon Focus F) แผ่นฝ้าอะคูสติก ที่ผลิตจากเส้นใยอะคูเทคคุณภาพสูง เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม มีค่าการดูดซับเสียงสูง ลดผลกระทบของเสียงที่ก่อให้เกิดความรำคาญ ตั้งเป้าปีนี้ยอดขายเพิ่มขึ้น 20%
กฤษดา สาธุกิจชัย ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและที่ปรึกษาด้านอะคูสติก บริษัท แทรนดาร์ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (Trandar) ผู้นำด้านนวัตกรรมอะคูสติก เพื่องานก่อสร้างและตกแต่งภายใน เปิดเผยถึง ข้อมูลผลวิจัยของ Lessman ที่ระบุว่า เสียงเป็นปัญหาที่ส่งผลกระทบในวงกว้างต่อมนุษย์ พบผู้คนมีความพึงพอใจในสภาพแวดล้อมในการทำงานเพียง 33.4% ที่เหลืออีก 66.6% ไม่พึงพอใจกับสภาพแวดล้อมของเสียงในที่ทำงาน และยังพบว่าในกลุ่มงานที่ซับซ้อน หากทำงานในสภาพเสียงไม่ดี มีความดังส่งผลให้สมาธิในการทำงานลดลงถึง 50%
นอกจากนี้งานวิจัยยังชี้ให้เห็นว่า เสียงรบกวนต่างๆ ในที่ทำงานส่งผลให้คนทำงานมีสมาธิหรือโฟกัสกับงานได้น้อยลง และยังส่งผลต่อให้เกิดการลาป่วยมากขึ้น ชี้ให้ชัดเจนว่าเสียงรบกวน (Noise) เป็นต้นเหตุที่ทำให้เกิดความรู้สึกรำคาญและสาเหตุที่ทำให้สุขภาพแย่ลง ซึ่งคนต้องใช้เวลา 60% ในการมีสมาธิจดจ่อ การถูกรบกวนจากเสียงนั้นจะทำให้ต้องใช้เวลาถึง 25นาที จึงจะสามารถกลับมามีสมาธิอีกครั้ง และต้องใช้เวลาเพิ่มขึ้นอีก 8 นาที จึงจะกลับมามีสมาธิเท่าเดิม และยังส่งผลทางอ้อมให้พนักงานมีความคิดเกี่ยวกับการเปลี่ยนที่ทำงานได้อีกด้วย
ผลการวิจัยดังกล่าว สะท้อนให้หากการออกแบบตกแต่งอาคารสำนักงาน และที่พักอาศัย เพื่อสร้างสภาพแวดล้อมของเสียงที่ดีจะช่วยเพิ่มจุดขายให้กับโครงการ ปัจจุบันทั่วโลกกำลังตื่นตัวกับการสร้างสิ่งแวดล้อมยั่งยืนในทุกมิติ ทั้งมลภาวะทางอากาศ ทางกลิ่น และทางเสียง จากการเกิดข้อตกลงเพื่อลดการปล่อยคาร์บอนใน หลายประเทศเพื่อเป้าหมายของการลดคาร์บอนเป็นศูนย์ หรือ Net Zero
“แต่อีกหนึ่งปัญหาด้านสิ่งแวดล้อมที่ทั่วโลกต้องเผชิญตลอด 24 ชั่วโมง นั่นคือปัญหาด้านมลภาวะทางเสียง ปัญหานี้ถือว่าเป็นอีกหนึ่งประเด็นที่หลายๆฝ่ายได้มองข้ามหากปล่อยไว้ในระยะยาวจะส่งผลเสียต่อสุขภาพกายและสุขภาพจิตของผู้คนทั่วโลก โดยเฉพาะผู้ที่ต้องอยู่อาศัยในแหล่งที่มีเสียงดังตลอดเวลา เช่น ผู้ที่พักอาศัยใกล้กับถนน สนามบิน ใกล้แม่น้ำลำคลองที่มีเรือสัญจรตลอดทั้งวัน โรงงานอุตสาหกรรมเสียงในอาคาร สำนักงาน หรือแม้แต่เสียงดังที่เกิดจากผู้คนภายในบ้าน” กฤษดา กล่าว
ทั้งนี้ แทรนดาร์ ได้จับมือกับ บริษัท อีโคโฟน แซงโกแบ็งจำกัด จากประเทศสวีเดน พัฒนาผลิตภัณฑ์อะคูสติกดูดซับเสียง (Sound Absorption) คุณภาพสูง ภายใต้แบรนด์ “อีโคโฟน โฟกัส เอฟ” (Ecophon Focus F) แผ่นฝ้าอะคูสติกที่ผลิตจากเส้นใยอะคูเทคคุณภาพสูง เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม และเป็นมิตรต่อผู้ใช้งาน มีค่าการดูดซับเสียงสูง ซึ่งคุณสมบัติข้อนี้สำคัญมากต่อการลดเสียงก้องเสียงสะท้อนภายในห้อง ลดผลกระทบของเสียงที่ก่อให้เกิดความรำคาญกับมนุษย์ (Sound effect on People) ช่วยทำให้อยู่ในสภาพแวดล้อมเสียงที่เหมาะสม ตามมาตรฐานองค์การอนามัยโลกได้กำหนด
นอกจากนี้ยังมีคุณสมบัติการกระจายแสงและสะท้อนแสงได้ดีช่วยประหยัดพลังงานทำให้ทั้งห้องมีความสว่างทั่วถึงกัน รวมไปถึงตัวแผ่นยังได้รับการรับรองจากองค์กร Asthma and Allergy ของประเทศสวีเดนว่าไม่มีสารที่ก่อให้เกิดโรคภูมิแพ้ และได้รับการรับรองมาตรฐานไม่ลามไฟ ตามมาตรฐาน EN จากยุโรป เพื่อตอกย้ำการเป็นแผ่นฝ้าอะคูสติกคุณภาพสูง และปลอดภัยต่อผู้ใช้งาน
หลังจากเปิดตัวในหลายประเทศ อีโคโฟน โฟกัส เอฟ (Ecophon Focus F) ได้รับความนิยมอย่างมากในวงการตกแต่งภายในและวงการสถาปัตยกรรมทั้งในไทย และต่างประเทศด้วยฟังก์ชันการใช้งานที่หลากหลาย ไม่ว่าจะเป็น หอประชุมเอนกประสงค์ อาคารสำนักงาน โรงเรียนและมหาวิทยาลัย ห้องซ้อมดนตรีและสตูดิโอหรือแม้กระทั่งการใช้กับห้องในบ้าน
ในช่วง 5 ปีที่ผ่านมา ยอดขายผลิตภัณฑ์อะคูสติก เติบโตขึ้นเฉลี่ย10%และในปี พ.ศ. 2565 คาดว่าจะเติบโตขึ้น 20% แม้ว่าปีนี้เศรษฐกิจไทยได้รับผลกระทบจากปัญหาการระบาดของ COVID-19 โดยยอดขายผลิตภัณฑ์อะคูสติกสะท้อนให้เห็นถึงความเชื่อมั่นของนักลงทุนยังดำเนินต่อไป การก่อสร้างอาคารสำนักงานที่ยังเติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะในปีที่ผ่านมา แทรนดาร์ได้รับงานปรับปรุงสภาพแวดล้อมทางเสียงจากทางโรงเรียนนานาชาติ อาคารสำนักงาน และโรงแรมชั้นหลายแห่ง ที่ต้องการปรับปรุงสถานที่ และเตรียมพร้อมให้บริการอีกครั้ง หลังจากสถานการณ์ COVID-19 คลี่คลาย
“ทิศทางการเติบโตของการก่อสร้างอาคารของไทยยังเติบโตต่อเนื่อง แต่ในส่วนของอาคารสำนักงานนั้นจะเป็นการเติบโตที่เป็นไปตามเทรนด์ของการอยู่อาศัยอย่างยั่งยืนในทุกมิติทั้งด้านการประหยัดพลังงาน การให้ความสำคัญกับมลภาวะทางอากาศ รวมถึงทางเสียง” กฤษดา กล่าวทิ้งท้าย