“ทอสเท็ม” เปิดศูนย์นวัตกรรมและแสดงผลิตภัณฑ์ชูความเป็นผู้นำผลิตประตู-หน้าต่างอะลูมิเนียมครบวงจร
บริษัท แอล เอช ที เอเซีย เซลส์ แอนด์ มาร์เก็ตติ้ง จำกัด ผู้ผลิตสินค้าสำหรับอาคารที่อยู่อาศัยและบานประตูหน้าต่างชั้นนำจากประเทศญี่ปุ่น แบรนด์ ทอสเท็ม (TOSTEM) เปิดศูนย์นวัตกรรมและแสดงผลิตภัณฑ์ทอสเท็ม (TOSTEM Innovation Center) เพื่อนำเสนอจุดเด่นของการดีไซน์ ออกแบบ ประสิทธิภาพและคุณภาพของผลิตภัณฑ์แบรนด์ TOSTEM อย่างครบวงจร
วิชา วรสายัณห์ ลีดเดอร์ กลุ่มธุรกิจเฮาส์ซิ่งเทคโนโลยี บริษัท แอล เอช ที เอเซีย เซลส์ แอนด์ มาร์เก็ตติ้ง จำกัด ผู้ผลิตประตูและหน้าต่างอะลูมิเนียมแบรนด์ ทอสเท็ม (TOSTEM) กล่าวว่า บริษัท ทอสเท็ม ไทย จำกัด เป็นบริษัทผู้ผลิตผลิตภัณฑ์อะลูมิเนียม และผลิตภัณฑ์สำหรับอาคารที่อยู่อาศัยและบานประตูหน้าต่างชั้นนำจากประเทศญี่ปุ่น ด้วยกระบวนการผลิตแบบครบวงจรตั้งแต่การรีดขึ้นรูปอะลูมิเนียมผ่านแม่พิมพ์ หรือที่เรียกว่า ALUMINIUM EXTRUSION ไปจนถึงการชุบเคลือบผิวด้วยเทคโนโลยีที่ทันสมัยด้วยกระแสไฟฟ้าระบบอะโนไดซ์และเคลือบผิวด้วยระบบ TEXGUARD นอกจากนี้ยังมีระบบ PRE ENGINEERED การผลิตผลิตภัณฑ์สำเร็จรูปพร้อมประกอบจากโรงงานโดยตรง ทำให้ประตูหน้าต่างของทอสเท็มมีคุณภาพสม่ำเสมอกันทุกชุด สามารถผลิตได้ตามขนาดที่ลูกค้าต้องการและ มีอะลูมิเนียมสำหรับอุตสาหกรรม และอะลูมิเนียมสำหรับก่อสร้างอีกด้วย
สำหรับศูนย์นวัตกรรมและแสดงผลิตภัณฑ์ทอสเท็ม (TOSTEM Innovation Center) เป็นศูนย์นวัตกรรมที่จัดสร้างขึ้นเพื่อแสดงผลิตภัณฑ์ของ TOSTEM ตั้งอยู่ภายในพื้นที่โรงงานของบริษัท ทอสเท็ม ไทย จำกัด ภายในนิคมอุตสาหกรรมนวนคร จังหวัดปทุมธานี บนพื้นที่กว่า 539,000 ตารางเมตร หรือประมาณ 400 ไร่ เพื่อนำเสนอจุดเด่นของการออกแบบ และคุณภาพของผลิตภัณฑ์ ตลอดจนการติดตั้งบานประตูและหน้าต่างของ TOSTEM ไว้ภายใน TOSTEM Innovation Center แห่งนี้ โดยผลิตภัณฑ์ที่จัดแสดงภายใน มีทั้งประตู หน้าต่าง รั้ว ประตูรั้วที่ผลิตจากอะลูมิเนียม ซึ่งผลิตภัณฑ์ทั้งหมดจำหน่ายในตลาดอาเซียน เช่น เวียดนามและอินโดนีเซีย นอกจากนี้ยังมีผลิตภัณฑ์ที่อยู่ระหว่างการพัฒนา เช่น ผลิตภัณฑ์ GRANTS Series ที่มีการพัฒนาความสูงจาก 3 เมตร ให้สูงได้ถึง 4.5 เมตร ตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าได้สูงสุด มาพร้อมประตูบานเลื่อนเข้ามุมที่ไม่มีเสา ทำให้สามารถเปิดเชื่อมต่อกับพื้นที่ภายนอกได้อย่างเต็มที่ ซึ่งผลิตในประเทศไทยเป็นครั้งแรก รวมทั้งสินค้าจากประเทศญี่ปุ่นให้ลูกค้าโครงการ สถาปนิก ได้เข้าชมก่อนใคร เพื่อให้ผู้รับชมมีความเข้าใจ พร้อมกับสร้างความเชื่อมั่นให้กับลูกค้าในการเลือกซื้อผลิตภัณฑ์ของบริษัทฯ และเป็นสถานที่ให้พนักงานทุกคนของ TOSTEM และตัวแทนจำหน่ายผลิตภัณฑ์ทอสเท็ม สามารถเข้ามาเรียนรู้ผลิตภัณฑ์
วิชา กล่าวว่า ภายใน Innovation Center แบ่งเป็น 2 ส่วน ประกอบด้วย 1.Material Board (Disassemble) เป็นบอร์ดสำหรับอธิบายคุณสมบัติ และส่วนประกอบต่างๆ ของประตูและหน้าต่างแต่ละซีรีส์ ทำให้ลูกค้าสามารถเห็นรายละเอียดแต่ละชิ้นได้อย่างชัดเจน นำไปสู่การเลือกบานประตูและหน้าต่างที่เหมาะสมกับโครงการ และเลือกประตูและหน้าต่างที่เหมาะสมกับผู้อยู่อาศัยและ2. ส่วนตรงกลางโชว์รูม ซึ่งนำเสนอผลิตภัณฑ์ที่วางจำหน่ายในประเทศญี่ปุ่น โดย TOSTEM ภูมิใจนำเสนอ Panoramic Door ที่ได้รับการออกแบบให้มีรูปทรงโปร่งสบาย สามารถมองเห็นวิวด้านนอกได้ในมุมกว้าง มาพร้อมกับฟังก์ชันมือจับที่สามารถใช้งานได้อย่างสะดวกสบาย
นอกจากนี้ภายใน TOSTEM Innovation Center ยังมีผลิตภัณฑ์ประตูหน้าต่างรุ่นต่างๆ ที่วางจำหน่ายในตลาดอาเซียน และยังมีผลิตภัณฑ์อื่นๆ ของประเทศญี่ปุ่นที่จัดแสดงอยู่ภายในเพื่อให้เข้าถึงนวัตกรรมและเป็นแนวทางให้กับผู้เข้าชม เช่น GIESTA Door Smart Lock ซึ่งเป็นประตูที่มีความพิเศษกว่ารุ่นที่วางจำหน่ายในตลาดอาเซียน โดยสามารถปิดและเปิดผ่านสมาร์ทโฟน หรือ รีโมทได้ และบานเกล็ดอัตโนมัติที่ควบคุมการปิดและเปิดได้ด้วยรีโมทคอนโทรล
TOSTEM Innovation Center ยังมีห้องฝึกอบรมการติดตั้งผลิตภัณฑ์ TOSTEM สำหรับอบรมตัวแทนจำหน่ายผลิตภัณฑ์ TOSTEM ให้สามารถติดตั้งผลิตภัณฑ์ของทอสเท็มได้อย่างถูกต้อง และเกิดประสิทธิภาพในการใช้งานสูงสุด โดยผู้อบรมเป็นทีมงานผู้เชี่ยวชาญจากทอสเท็ม
ในส่วนผลิตภัณฑ์ของทอสเท็มก่อนที่นำมาจัดแสดงภายในศูนย์ Innovation Center และนำส่งลูกค้านั้นจะนำไปผ่านกระบวนการทดสอบในกระบวนการต่างๆ เช่น การทดสอบประสิทธิภาพของบานอลูมิเนียมต่อสภาพอากาศแบบต่างๆ ทั้งการทดสอบประสิทธิภาพการต้านทางแรงลมในระดับต่างๆ การทดสอบประสิทธิภาพการกันอากาศจากภายนอกอาคารเข้าสู่ภายในอาคารและทดสอบประสิทธิภาพการรั่วซึมของน้ำภายนอกอาคารเข้าสู่ภายในอาคาร การทดสอบประสิทธิภาพความทนทานต่อการใช้งาน เช่น ทดสอบความทนทานต่อการเปิด-ปิด ทดสอบความทนทานต่อการกระแทก และทดสอบความทนทานต่อแรงโหลดและการทดสอบประสิทธิภาพการกันเสียง เป็นการทดสอบประสิทธิภาพการป้องกันเสียงรบกวน จากภายนอกเข้าไปถึงภายในบ้านเมื่อมีการติดตั้งผลิตภัณฑ์จะสามารถลดเสียงรบกวนลงได้กี่เดซิเบล เป็นต้น
วิชา กล่าวถึงกลุ่มลูกค้าขอบริษัทฯ ว่ามี 2 กลุ่ม คือ กลุ่มงานโปรเจ็กต์ เช่น โครงการที่สร้างบ้านของผู้ประกอบการภาคอสังหาริมทรัพย์ต่างๆ และกลุ่มรีเทลซึ่งเป็นกลุ่มผู้บริโภคที่ต้องกรต่อเติมบ้าน รีโนเวท สร้างใหม่ ต่อเติมครัว ซึ่งในปัจจุบันตลาดในส่วนของรีเทลกำลังเติบโตขึ้นต่อเนื่องจำนวนมาก ส่วนการทำตลาดนั้นมีทั้งการทำการตลาดในออนไลน์ ผ่าน Facebookของบริษัทฯ และนำผลิตภัณฑ์ต่างๆไปร่วมออกงานแสดงสินค้า เช่น งานสถาปนิก เป็นต้น
ปัจจุบันบริษัทฯมีพนักงานประมาณ 6,000 คน มีการเดินเครื่องผลิตตลอด 24 ชั่วโมง และมีกำลังผลิตอะลูมิเนียมถึง 7,000 ตันต่อเดือน หรือประมาณ 84,000 ตันต่อปี โดยผลิตเพื่อจำหน่ายในประเทศประมาณ 52% และส่งออกไปจำหน่ายที่ประเทศญี่ปุ่นประมาณ 48%