ครม.มีมติอนุมัติให้ยกเว้นมติคณะรัฐมนตรีเพื่อดำเนินการจัดที่ดินเพื่อการอยู่อาศัยให้ชุมชนในพื้นที่ป่าชายเลน ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2564 ในท้องที่ 13 จังหวัดชายฝั่งทะเล
การประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) เมื่อวันที่ 6 กันยายน พ.ศ.2565 ที่มี พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี เป็นประธานการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ณ ตึกสันติไมตรี (หลังนอก) ทำเนียบรัฐบาล โดย ครม.มีมติอนุมัติให้ยกเว้นมติคณะรัฐมนตรีเพื่อดำเนินการจัดที่ดินเพื่อการอยู่อาศัยให้ชุมชนในพื้นที่ป่าชายเลน ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2564 ในท้องที่ 13 จังหวัดชายฝั่งทะเล
โดย ครม.มีมติอนุมัติให้ยกเว้นมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 23 กรกฎาคม พ.ศ. 2534 (เรื่อง รายงานการศึกษาสถานภาพปัจจุบันของป่าไม้ชายเลนและปะการังของประเทศไทย) วันที่ 22 สิงหาคม พ.ศ. 2543 (เรื่อง มติคณะกรรมการนโยบายป่าไม้แห่งชาติ เรื่อง การแก้ไขปัญหาการจัดการพื้นที่ป่าไม้ชายเลน) และวันที่ 17 ตุลาคม 2543 (เรื่อง มติคณะกรรมการนโยบายป่าไม้แห่งชาติ ครั้งที่ 3/2543 เรื่อง การแก้ไขปัญหาการจัดการพื้นที่ป่าชายเลน) เพื่อดำเนินการจัดการที่ดินเพื่อการอยู่อาศัยให้ชุมชน ในพื้นที่ป่าชายเลน ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2564 ในท้องที่ 13 จังหวัดชายฝั่งทะเล เพื่อนำที่ดินที่เป็นป่าชายเลน เนื้อที่รวม 573-3-78 ไร่ ไปดำเนินการจัดที่ดินเพื่อการอยู่อาศัยให้ชุมชน ตามที่กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (ทส.) เสนอ
สาระสำคัญของเรื่อง
ทส. รายงานว่า
1. ที่ผ่านมา ทส. โดยกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง (ทช.) ได้ดำเนินการจัดที่ดินในพื้นที่ป่าชายเลนให้ชุมชนตามนโยบายรัฐบาล โดยมีผลการดำเนินงานที่ผ่านมา ดังนี้
- ปีงบประมาณ (พ.ศ.) 2559 (มติ ครม. 30 กันยายน พ.ศ.2558) จัดที่ดินอำเภอเมือง อำเภอปากพนัง จังหวัดนครศรีธรรมราช จำนวน 27,000 ไร่ แบ่งเป็น จัดที่ดินทำกินให้ชุมชน จำนวน 11,000 ไร่ และปลูกป่าฟื้นฟูป่าชายเลน 16,000 ไร่ จังหวัดนครศรีธรรมราชได้รับหนังสืออนุญาตเข้าทำประโยชน์ในพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติแล้ว จำนวน 10,979-0-69 ไร่ 695 ครัวเรือน
- ปีงบประมาณ (พ.ศ.) 2560 (มติ ครม. 23 พฤษภาคม 2560 พ.ศ.2558) จัดที่ดินอำเภอท่าศาลา อำเภอเมือง อำเภอปากพนัง จังหวัดนครศรีธรรมราช จำนวน 12,000 ไร่ แบ่งเป็นจัดที่ดินทำกินให้ชุมชน จำนวน 5,000 ไร่และ ปลูกป่าฟื้นฟูระบบนิเวศ 7,000 ไร่ จังหวัดนครศรีธรรมราชได้รับอนุญาตเข้าทำประโยชน์ในพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติ จำนวน 3,397 ไร่ 363 ครัวเรือน จัดที่ดินเพื่อการอยู่อาศัยในท้องที่จังหวัดชายฝั่งทะเล 9 จังหวัด (พื้นที่ 9 จังหวัด ได้แก่ จังหวัดชลบุรี ชุมพร ตรัง นครศรีธรรมราช เพชรบุรี ระนอง ระยอง สตูล และสุราษฎร์ธานี) 28 ชุมชน เนื้อที่ 287-2-82.80 ไร่ ได้รับอนุญาตให้เข้าทำประโยชน์แล้ว 26 ชุมชน เนื้อที่ 285-3-15.79 ไร่ 995 ครัวเรือน
- ปีงบประมาณ พ.ศ.2561 (มติ ครม. 23 พฤษภาคม พ.ศ. 2560) จัดที่ดินเพื่อการอยู่อาศัยในท้องที่จังหวัดชายฝั่งทะเล 18 จังหวัด (ได้แก่ จังหวัดกระบี่ จันทบุรี ชลบุรี ชุมพร ตรัง ตราด นครศรีธรรมราช ประจวบคีรีขันธ์ ปัตตานี พังงา เพชรบุรี ภูเก็ต ระนอง สงขลา สตูล สมุทรสงคราม ระยอง และสุราษฎร์ธานี) 252 ชุมชน ได้รับอนุญาตให้เข้าทำประโยชน์แล้ว 79 ชุมชน เนื้อที่ 626-0-32 ไร่ 3,041 ครัวเรือน
- ปีงบประมาณ พ.ศ.2562 (มติ ครม. 16 พฤศจิกายน พ.ศ.2564) จัดที่ดินเพื่อการอยู่อาศัยในท้องที่จังหวัดชายฝั่งทะเล 21 จังหวัด (พื้นที่ 21 จังหวัด จังหวัดกระบี่ จันทบุรี ฉะเชิงเทรา ชลบุรี ชุมพร ตรัง ตราด นครศรีธรรมราช ประจวบคีรีขันธ์ ปัตตานี พังงา เพชรบุรี ภูเก็ต ระนอง ระยอง สงขลา สตูล สมุทรปราการ สมุทรสงคราม สมุทรสาคร และสุราษฎร์ธานี) เนื้อที่ 3,116-1-28 ไร่ จำนวน 189 ชุมชน (หมายเหตุ : ปัจจุบันอยู่ระหว่างกระบวนการอนุญาตใช้ประโยชน์)
- ปีงบประมาณ พ.ศ.2563 (มติ ครม. 16 พฤศจิกายน พ.ศ.2564) จัดที่ดินเพื่อการอยู่อาศัยในท้องที่จังหวัดชายฝั่งทะเล 14 จังหวัด (จังหวัดกระบี่ จันทบุรี ฉะเชิงเทรา ชุมพร ตรัง ตราด นครศรีธรรมราช ประจวบคีรีขันธ์ พังงา ภูเก็ต ระนอง ระยอง สงขลา และสตูล) เนื้อที่ 988-2-76 ไร่ 67 ชุมชน (หมายเหตุ : ปัจจุบันอยู่ระหว่างกระบวนการอนุญาตใช้ประโยชน์)
2. ในปีงบประมาณ พ.ศ. 2564 (ข้อเสนอในครั้งนี้) ทส. มีเป้าหมายจัดที่ดินเพื่อการอยู่อาศัยในพื้นที่ป่าชายเลน ในท้องที่ 13 จังหวัด (ได้แก่ จังหวัดกระบี่ จันทบุรี ชลบุรี ชุมพร ตราด นครศรีธรรมราช ประจวบคีรีขันธ์ พังงา ภูเก็ต ระนอง ระยอง สตูล และสุราษฎร์ธานี) จำนวน 64 พื้นที่ เนื้อที่รวม 573-3-78 ไร่ ซึ่งต้องขอยกเว้นมติคณะรัฐมนตรีที่ห้ามใช้ประโยชน์พื้นที่ป่าชายเลนก่อน ในการนี้ ทช. ได้ลงพื้นที่สำรวจรังวัดและขึ้นรูปแปลงแล้ว โดยพื้นที่ทั้งหมดอยู่ในความรับผิดชอบของ ทส. ตามพระราชบัญญัติปรับปรุงกระทรวง ทบวง กรม พ.ศ. 2545 และพระราชบัญญัติส่งเสริมการบริหารจัดการทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง พ.ศ. 2558 ไม่ทับซ้อนกับพื้นที่ที่อยู่ในความรับผิดชอบของหน่วยงานอื่น และไม่กระทบต่อการปฏิบัติตามกฎหมายในความรับผิดชอบของหน่วยงานอื่น และเมื่อกำหนดพื้นที่เป้าหมายแล้ว เจ้าหน้าที่จะลงสำรวจพื้นที่ร่วมกับผู้นำหรือผู้แทนชุมชนผู้ที่อยู่อาศัยใช้ประโยชน์ที่ดินเป็นผู้นำตรวจและนำชี้เป็นรายแปลง ทั้งนี้ การจัดที่ดินป่าชายเลนในปีงบประมาณ พ.ศ. 2564 (ข้อเสนอในครั้งนี้) คณะอนุกรรมการจัดหาที่ดิน (รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เป็นประธานอนุกรรมการ) มีมติเห็นชอบการกำหนดให้พื้นที่ป่าชายเลนดังกล่าวเป็นพื้นที่เป้าหมายที่จะดำเนินการจัดที่ดินทำกินให้ชุมชนแล้ว ในการประชุมครั้งที่ 1/2564 เมื่อวันที่ 2 สิงหาคม 2564 และคณะกรรมการนโยบายที่ดินแห่งชาติ (นายกรัฐมนตรี เป็นประธานกรรมการ) มีมติรับทราบผลการพิจารณาของคณะอนุกรรมการจัดหาที่ดินข้างต้นแล้ว ในการประชุมครั้งที่ 2/2564 เมื่อวันที่ 13 กันยายน พ.ศ. 2564
3. ทช. จะดำเนินการต่อไปให้เป็นไปตามระเบียบ ทช. ว่าด้วยการปลูกและบำรุงป่าชายเลนทดแทนเพื่อการอนุรักษ์หรือรักษาสภาพแวดล้อม กรณีการดำเนินการโครงการใด ๆ ของหน่วยงานของรัฐที่มีความจำเป็นต้องเข้าใช้ประโยชน์ในพื้นที่ป่าชายเลน พ.ศ. 2556 ซึ่งกำหนดให้ หน่วยงานรัฐที่เข้าใช้ประโยชน์ป่าชายเลนต้องจัดสรรงบประมาณให้ ทช. เพื่อเป็นค่าใช้จ่ายในการปลูกและบำรุงรักษาป่าชายเลนทดแทน ไม่น้อยกว่า 20 เท่า ของพื้นที่ป่าชายเลนที่ใช้ประโยชน์