ครม.มีมติอนุมัติหลักการร่างพระราชกฤษฎีกากำหนดเขตที่ดินที่จะเวนคืน เพื่อสร้างทางหลวงท้องถิ่น สายเชื่อมระหว่างถนนสุขาภิบาล 5 (ถนนรัตนโกสินทร์สมโภช) กับถนนนิมิตใหม่ พ.ศ. ….
การประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) เมื่อวันที่ 4 พฤศจิกายน พ.ศ.2564 ที่มีพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เป็นประธานการประชุม ณ ตึกสันติไมตรี (หลังนอก) ทำเนียบรัฐบาล โดย ครม.มีมติอนุมัติหลักการร่างพระราชกฤษฎีกากำหนดเขตที่ดินที่จะเวนคืน เพื่อสร้างทางหลวงท้องถิ่น สายเชื่อมระหว่างถนนสุขาภิบาล 5 (ถนนรัตนโกสินทร์สมโภช) กับถนนนิมิตใหม่ พ.ศ. …. ตามที่กระทรวงมหาดไทย (มท.) เสนอ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา แล้วดำเนินการต่อไปได้ และให้ มท. รับความเห็นของสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาไปถือปฏิบัติโดยเคร่งครัดต่อไป และรับความเห็นของกระทรวงคมนาคมและสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติไปพิจารณาดำเนินการต่อไปด้วย
ทั้งนี้ มท. เสนอว่า
1.กทม. มีโครงการก่อสร้างทางหลวงท้องถิ่น สายเชื่อมระหว่างถนนรัตนโกสินทร์สมโภชกับถนนนิมิตใหม่ ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของการก่อสร้างและขยายทางหลวงท้องถิ่นสายเชื่อมระหว่างถนนพหลโยธิน – ถนนรัตนโกสินทร์สมโภช – ถนนนิมิตใหม่ เพื่อแก้ไขปัญหาการจราจรในเขต กทม. และปริมณฑล บรรเทาภาระการจราจรบนถนนสายหลัก และเพิ่มพื้นที่ถนนในเขตชานเมือง เมื่อก่อสร้างเสร็จจะเป็นเส้นทางเชื่อมต่อที่สำคัญ รวมทั้งเพิ่มโครงข่ายการจราจรในพื้นที่ กทม. ให้มีความสมบูรณ์ยิ่งขึ้น อันจะทำให้ประชาชนสามารถเดินทางสู่ถนนสายหลักที่ใกล้เคียง ได้แก่ ถนนพหลโยธิน ถนนรามอินทรา ถนนสุวินทวงศ์ ทางพิเศษฉลองรัช และทางหลวงพิเศษหมายเลข 9 ได้สะดวก โดยลักษณะของโครงการเป็นการก่อสร้างถนนคอนกรีตเสริมเหล็กขนาด 8 ช่องจราจร (ไป – กลับ) ระยะทางประมาณ 9 กิโลเมตร กว้างประมาณ 60 – 80 เมตร จุดเริ่มต้นโครงการจากถนนสุขาภิบาล 5 และสิ้นสุดโครงการที่ถนนนิมิตใหม่ โดยเจ้าหน้าที่ได้จัดกรรมสิทธิ์ที่ดินตามพระราชบัญญัติว่าด้วยการเวนคืนและการได้มา ซึ่งอสังหาริมทรัพย์ พ.ศ. 2562 เป็นที่ดิน 245 แปลง โรงเรือนสิ่งปลูกสร้าง 93 รายการ จำนวนเงินค่าทดแทน 2,021,360,342 บาท
2.เจ้าหน้าที่เวนคืนได้ดำเนินการสำรวจอสังหาริมทรัพย์ตามพระราชกฤษฎีกากำหนดเขตที่ดินในบริเวณที่จะเวนคืนเพื่อสร้างทางหลวงท้องถิ่น สายเชื่อมระหว่างถนนสุขาภิบาล 5 (ถนนรัตนโกสินทร์สมโภช) กับถนนนิมิตใหม่ พ.ศ. 2560 ไม่แล้วเสร็จ เนื่องจากมีจำนวนอสังหาริมทรัพย์ที่จำเป็นจะต้องเข้าทำการสำรวจเพื่อให้ทราบข้อเท็จจริงเกี่ยวกับอสังหาริมทรัพย์ที่ต้องได้มาโดยแน่ชัด เป็นที่ดินประมาณ 212 แปลง โรงเรือนหรือสิ่งปลูกสร้างประมาณ 407 รายการ
3.กทม. พิจารณาแล้วเห็นว่า ยังมีความจำเป็นที่จะต้องดำเนินการสำรวจอสังหาริมทรัพย์เพื่อประโยชน์ในการเวนคืนอสังหาริมทรัพย์ เพื่อดำเนินการก่อสร้างทางหลวงท้องถิ่นสายเชื่อมระหว่างถนนสุขาภิบาล 5 (ถนนรัตนโกสินทร์สมโภช) กับถนนนิมิตใหม่ ในท้องที่แขวงท่าแร้ง เขตบางเขน แขวงคลองถนน แขวงออเงิน เขตสายไหม และแขวงสามวาตะวันตก แขวงสามวาตะวันออก เขตคลองสามวา กทม. ต่อไป เพื่ออำนวยความสะดวก และความรวดเร็วแก่การจราจรและการขนส่ง อันเป็นกิจการสาธารณูปโภค และเพื่อให้พนักงานเจ้าหน้าที่มีสิทธิเข้าไปทำการสำรวจเพื่อให้ทราบข้อเท็จจริงเกี่ยวกับอสังหาริมทรัพย์ที่ต้องได้มาโดยแน่ชัด
4.กทม. ได้ดำเนินการจัดให้มีการรับฟังความคิดเห็นของผู้ได้รับผลกระทบจากโครงการก่อสร้างทางหลวงท้องถิ่นสายดังกล่าว ตามระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยการรับฟังความคิดเห็นของประชาชน พ.ศ. 2548 แล้ว ซึ่งส่วนใหญ่เห็นด้วยกับโครงการดังกล่าว
5.สำนักงบประมาณแจ้งว่า กทม. มีแผนการจัดกรรมสิทธิ์และการเบิกจ่ายค่าทดแทน ระยะเวลาดำเนินการ 5 ปี นับแต่วันที่ 23 มิถุนายน 2564 ถึงวันที่ 22 มิถุนายน พ.ศ.2569 ประมาณการค่าจัดกรรมสิทธิ์ จำนวน 4,216,000,000 บาท โดยใช้จ่ายจากงบประมาณของ กทม. ทั้งจำนวน ทั้งนี้ การดำเนินการจะต้องเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ โปร่งใส และตรวจสอบได้ทุกขั้นตอน
สาระสำคัญของร่างพระราชกฤษฎีกา
กำหนดเขตที่ดินที่จะเวนคืน ในท้องที่แขวงท่าแร้ง เขตบางเขน แขวงคลองถนน แขวงออเงินเขตสายไหม และแขวงสามวาตะวันตก แขวงสามวาตะวันออก เขตคลองสามวา กทม. เพื่อสร้างทางหลวงท้องถิ่น สายเชื่อมระหว่างถนนสุขาภิบาล 5 (ถนนรัตนโกสินทร์สมโภช) กับถนนนิมิตใหม่ (พระราชกฤษฎีกานี้ให้ใช้บังคับได้มีกำหนด 5 ปี)