Sunday, November 24, 2024
Latest:
News

“AOT” จับมือ “สกาย ไอซีที” ต่อยอดแอป “SAWASDEE by AOT” สู่ Thailand Travel Super App ครบทุกเรื่องสำหรับนักเดินทางบนแอปเดียว

บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) หรือ AOT ร่วมกับ บริษัท สกาย ไอซีที จำกัด (มหาชน) หรือ SKY ต่อยอดพัฒนาแอปพลิเคชัน “SAWASDEE by AOT” สู่ Thailand Travel Super App ครบทุกเรื่องสำหรับนักเดินทางบนแอปพลิเคชันเดียว ครอบคลุมท่าอากาศยานทั้ง 6 แห่ง ได้แก่ ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ท่าอากาศยานดอนเมือง ท่าอากาศยานเชียงใหม่ ท่าอากาศยานแม่ฟ้าหลวง เชียงราย ท่าอากาศยานภูเก็ต และท่าอากาศยานหาดใหญ่

นิตินัย ศิริสมรรถการ กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) (AOT) กล่าวว่า ภายหลังสถานการณ์ COVID-19 คลี่คลายลงและหลายประเทศคลายมาตรการการเดินทางข้ามประเทศ ตั้งแต่ช่วงต้นปี พ.ศ. 2565 เป็นต้นมา ส่งผลให้ชาวต่างชาติเดินทางเข้าประเทศไทยเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ไม่ว่าจะเป็นเข้ามาทำธุรกิจ การศึกษาและท่องเที่ยว โดยคาดว่าตั้งแต่เปิดประเทศจนถึงสิ้นปี พ.ศ. 2566 ท่าอากาศยานทั้ง 6 แห่ง ได้แก่ ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ท่าอากาศยานดอนเมือง ท่าอากาศยานเชียงใหม่ ท่าอากาศยานแม่ฟ้าหลวง เชียงราย ท่าอากาศยานภูเก็ต และท่าอากาศยานหาดใหญ่ ซึ่งมีจำนวนนักท่องเที่ยวใช้เดินทางมากที่สุด จะมีผู้โดยสารเพิ่มขึ้นประมาณ 96 ล้านคน ฟื้นตัว 68% เมื่อเทียบกับจำนวนผู้โดยสารก่อนการแพร่ระบาด COVID-19 และคาดว่าในปี พ.ศ. 2567 จะกลับมาฟื้นตัวเป็นปกติเทียบกับก่อนเกิด COVID-19 จะมีจำนวนผู้โดยสารประมาณ 142 ล้านคน ด้วยเหตุนี้ AOT จึงได้นำเทคโนโลยีดิจิทัลเข้ามาพัฒนาบริการในทุกมิติ โดยร่วมพัฒนาแอปพลิเคชัน “SAWASDEE by AOT” ครบทุกเรื่องสำหรับนักเดินทางบนแอปพลิเคชันเดียว สื่อความเป็นไทยได้เป็นอย่างดีกับคำว่า “สวัสดี” ให้กลายเป็น “Thailand Travel Super App” เพื่อเป็นตัวช่วยหลักของนักท่องเที่ยวตลอดการเดินทาง ซึ่งจะช่วยยกระดับมาตรฐานท่าอากาศยานไทยให้ทันสมัยในโลกยุคดิจิทัล ไม่ว่าจะเป็นการเดินทางเป็นครอบครัว บินไปทำธุรกิจ เที่ยวแบบคู่รัก และออกทริปสนุกๆ กับกลุ่มเพื่อน พร้อมเพิ่มประสิทธิภาพการให้บริการครอบคลุมทุกด้าน ตอบโจทย์การบริการมากยิ่งขึ้น

สิทธิเดช มัยลาภ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท สกาย ไอซีที จำกัด (มหาชน) (SKY) ผู้นำด้านการพัฒนานวัตกรรมการให้บริการ Digital Platform และ AI-Empowered Solution ระดับประเทศ กล่าวว่า การพัฒนาแอปพลิเคชัน SAWASDEE by AOT ให้เป็น Thailand Travel Super App ที่ครอบคลุมความต้องการของนักท่องเที่ยว นับเป็นอีกก้าวสำคัญในการนำเทคโนโลยีมาผสานกับไลฟ์สไตล์ผู้คน ซึ่งจะพลิกโฉมภาพลักษณ์ของประเทศไทย และยกระดับบริการด้านการท่องเที่ยวไทยให้ก้าวสู่ดิจิทัลอย่างเป็นรูปธรรมเป็นครั้งแรก สอดคล้องกับแนวคิด “CONNECTING THAILAND” ของสกาย ไอซีที ที่มุ่งเชื่อมต่อเทคโนโลยีเข้ากับการดำเนินชีวิตของคนไทย และเชื่อมโยงระบบนิเวศทางเทคโนโลยีของประเทศไทยให้ครบสมบูรณ์ พร้อมเดินหน้าสู่อนาคตซึ่งปัจจุบันมีผู้ดาวน์โหลดแอปพลิเคชันดังกล่าวแล้วกว่า 700,000 คน โดยตั้งเป้าว่าภายในปี พ.ศ.2567 จะมียอดดาวน์โหลดแอปพลิเคชันประมาณ 4,000,000 คน และคาดว่าใน 5 ปี จากนี้จะมียอดดาวน์โหลด 10,000,000 คน

ขยล ตันติชาติวัฒน์ ประธานเจ้าหน้าที่สายงานการตลาด บริษัท สกาย ไอซีที จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า AOT และสกาย ไอซีที มุ่งส่งมอบประสบการณ์เดินทางสุดพิเศษแก่นักท่องเที่ยว ภายใต้แนวคิด “GATEWAY TO THAILAND” โดยจับมือกับหลากองค์กรพันธมิตรไทย ยกระดับฟีเจอร์ใหม่บน “SAWASDEE by AOT” เพื่อตอบโจทย์การให้บริการทุกมิติใน 3 ด้าน ได้แก่ 1.Digital Airport Experiences ยกระดับประสบการณ์ภายในสนามบิน ครอบคลุมท่าอากาศยานทั้ง 6 แห่ง ได้แก่ ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ท่าอากาศยานดอนเมือง ท่าอากาศยานเชียงใหม่ ท่าอากาศยานแม่ฟ้าหลวง เชียงราย ท่าอากาศยานภูเก็ต และท่าอากาศยานหาดใหญ่ 2.Digital Lifestyle ยกระดับบริการด้านการใช้จ่ายและสิทธิพิเศษ3.Digital Travel Safety ยกระดับความปลอดภัยและอำนวยความสะดวกด้านการท่องเที่ยว

สำหรับแอปพลิเคชัน “SAWASDEE by AOT” มีฟีเจอร์ที่โดดเด่น ทั้ง “Flights” เชื่อมต่อข้อมูล Flight Board จากสนามบิน ค้นหาเที่ยวบินทั้งขาเข้า-ขาออก สามารถบันทึกไฟลท์บินล่วงหน้าก่อนการเดินทาง พร้อมแจ้งเตือนหากมีการเปลี่ยนแปลงของเที่ยวบิน “Queue Time” แสดงข้อมูลเวลารอคิวในทั้ง 3 โซนภายในสนามบิน ได้แก่ จุดเช็คอิน จุดตรวจค้นเพื่อการรักษาความปลอดภัย และจุดตรวจหนังสือเดินทาง เป็นตัวช่วยสำคัญให้นักท่องเที่ยวไม่พลาดเที่ยวบิน “Taxi Reservation” สะดวกรวดเร็วกว่ากับบริการจองรถแท็กซี่ เฉพาะผู้ใช้งานแอปพลิเคชันเท่านั้น รองรับการใช้งานได้สูงสุดถึง 8 ภาษา ได้แก่ ไทย อังกฤษ จีน อินเดีย ญี่ปุ่น เกาหลี สเปน และรัสเซีย นอกจากนี้ยังมี “SAWASDEE Pay” กระเป๋าเงินดิจิทัลที่พัฒนาร่วมกับธนาคารกรุงไทย (KTB) เพื่อมอบประสบการณ์ช้อปปิ้งสุดสนุกให้กับนักท่องเที่ยว สามารถผูกการใช้จ่ายกับบัตรเดบิตและบัตรเครดิต Visa, MasterCard สำหรับใช้จ่ายกับร้านค้าพันธมิตรทั้งในและนอกสนามบิน พร้อมรับส่วนลดพิเศษสูงสุด 50% เช่น The Coral Lounge, ร้านอาหารเครือ SSP Thailand ภายในสนามบินกว่า 15 แบรนด์ เช่น เดอะ พิซซ่า คอมปะนี, บอนชอน, เบอร์เกอร์คิง, แดรี่ควีน, โปเตโต้ คอร์เนอร์ เป็นต้น

โดยทุกการใช้จ่ายจะได้ “AOT Points” นำไปแลกสิทธิพิเศษ (Privilege) หรือโอนคะแนนกับพันธมิตรต่าง ๆ เช่น CARAT จาก King Power, PT Max Card ของปั๊มน้ำมัน PTG และคะแนนบัตรเครดิตของ ธนาคารกรุงเทพ ธนาคารกรุงศรีอยุธยา ธนาคารกรุงไทย และ ธนาคารไทยพาณิชย์ มีฟีเจอร์ “Tourist Help” ร่วมมือกับตำรวจท่องเที่ยวอำนวยความสะดวก ดูแลความปลอดภัยให้นักท่องเที่ยว และสามารถสื่อสารได้ 6 ภาษา ได้แก่ ไทย อังกฤษ จีน เกาหลี ญี่ปุ่น และรัสเซีย มีฟีเจอร์“Insurance” บริการซื้อประกันเดินทาง และประกันอุบัติเหตุในราคาพิเศษ พร้อมรับความคุ้มครองตลอดการเดินทางจากเมืองไทยประกันภัย (MTI)พันธมิตรประกันภัยชั้นนำระดับประเทศและจะทยอยเพิ่มฟีเจอร์ใหม่ๆ เช่น Airport Free Wi-Fi ใช้อินเทอร์เน็ตภายในสนามบินฟรี Premium Services ให้บริการ Butler & Buggy และเทคโนโลยี ARที่กำลังถูกพัฒนาขึ้นเพื่อบริการนักท่องเที่ยวตามจุดต่าง ๆ ภายในสนามบิน รวมถึงบริการอื่น ๆ ที่กำลังพัฒนาร่วมกับพันธมิตร เพื่ออำนวยความสะดวกการให้บริการเร็ว ๆ นี้