ทล. เปิดวิ่งฟรีมอเตอร์เวย์ สายบางปะอิน – นครราชสีมา รองรับการเดินทางช่วงหยุดยาว
กรมทางหลวง (ทล.) กระทรวงคมนาคม เปิดให้บริการวิ่งฟรีชั่วคราว บนทางหลวงพิเศษระหว่างเมืองหมายเลข 6 (M6) สายบางปะอิน – นครราชสีมา ช่วงปากช่อง – สีคิ้ว – ขามทะเลสอ ระยะทาง 64 กิโลเมตร ในช่วงวันอาสาฬหบูชาและวันเข้าพรรษา ขาออกวันที่ 13 – 14 กรกฎาคม พ.ศ. 2565 และขาเข้า วันที่ 15 – 17 กรกฎาคม พ.ศ. 2565 และช่วงวันเฉลิมพระชนมพรรษาฯ ขาออกวันที่ 28 – 29 กรกฎาคม พ.ศ. 2565 และขาเข้าวันที่ 30 – 31 กรกฎาคม พ.ศ. 2565 เพื่อแบ่งเบาการจราจรบนทางหลวงหมายเลข 2 (ถนนมิตรภาพ)
โดยได้คาดการณ์ปริมาณจราจรเข้าออกกรุงเทพมหานคร บนทางหลวงสายหลักและมอเตอร์เวย์จำนวน 10 เส้นทาง ในช่วงวันหยุดยาวอาสาฬหบูชาและวันเข้าพรรษา ระหว่างวันที่ 13 – 17 กรกฎาคม พ.ศ.2565 รวมทั้งสิ้น 5,375,727 คัน โดยแบ่งเป็น ขาออก 2,692,935 คัน และขาเข้า 2,682,792 คัน โดยคาดว่าวันที่ 13 กรกฎาคม พ.ศ.2565 จะมีปริมาณจราจรขาออกสูงสุดประมาณ 589,586 คัน และวันที่ 17 กรกฎาคม พ.ศ.2565 จะมีปริมาณจราจรขาเข้ากรุงเทพมหานครสูงสุดประมาณ 596,695 คัน จึงขอให้ประชาชนวางแผนการเดินทาง ติดตามข่าวสาร ตรวจสอบความพร้อมของรถ ก่อนเดินทาง ทั้งนี้ ทล. โดยหน่วยงานในสังกัดทั่วประเทศได้จัดเตรียมแผนการปฏิบัติงานรองรับการเดินทางของประชาชนอย่างเต็มที่ทั้งด้านบุคคลากรและอุปกรณ์ตลอด 24 ชั่วโมง เพื่อลดปัจจัยเสี่ยงการเกิดอุบัติเหตุทางถนน โดยมีมาตรการดังนี้
1. ด้านการบริหารจัดการด้านความปลอดภัย
– จัดเตรียมเจ้าหน้าที่ อุปกรณ์อำนวยความปลอดภัย ให้มีความพร้อมในการออกปฏิบัติงานทั่วประเทศ เมื่อมีอุบัติเหตุหรือมีจราจรติดขัดสะสมบนเส้นทาง โดยร่วมกับตำรวจทางหลวงเปิดช่องทางพิเศษและรายงานเมื่อเปิดช่องทางทุกครั้ง
– ตรวจสอบป้ายเตือน ไฟสัญญาณ ไฟฟ้าแสงสว่างในพื้นที่ก่อสร้างให้อยู่ในสภาพพร้อมใช้งานตลอดเวลา
– หน่วยงานในพื้นที่ร่วมบูรณาการกับศูนย์อำนวยการความปลอดภัยทางถนนของจังหวัด
– ให้ปฏิบัติตามแนวทางมาตรการของหน่วยงานด้านสาธารณสุข ด้านความมั่นคง และระเบียบประกาศต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องในแต่ละพื้นที่
2. ด้านการบริหารจัดการด้านความสะดวก
– จัดเตรียมห้องน้ำสำหรับรองรับประชาชนที่จะมาใช้บริการ จอดพักรถ เข้าห้องน้ำ
– จัดเตรียมรถบริการช่วยเหลือฉุกเฉินตลอด 24 ชั่วโมง เน้นการให้บริการกรณีเกิดอุบัติเหตุ โดยให้บริการครอบคลุมทุกพื้นที่ของ ทล.
– ให้บริการข้อมูลข่าวสารผ่านสายด่วน ทล. โทร. 1586 และสายด่วนตำรวจทางหลวง โทร. 1193 รวมทั้งสื่อทางช่องทางต่าง ๆ ของ ทล. เช่น Twitter Facebook กรมทางหลวง และศูนย์บริหารจัดการจราจร และอุบัติเหตุกรมทางหลวง
3. ด้านการเฝ้าระวังป้องกันและควบคุมโรคติดเชื้อไวรัส COVID-19
-ให้เจ้าหน้าที่สวมใส่หน้ากากอนามัยพร้อมคัดกรองและตรวจวัดอุณหภูมิทุกครั้งก่อนเข้าปฏิบัติงาน และตั้งแอลกอฮอล์เจลล้างมือไว้พื้นที่ส่วนกลาง หมั่นทำความสะอาดภายในพื้นที่บริการประชาชน
4. ด้านการรายงานอุบัติเหตุ
รายงานการเกิดอุบัติเหตุใหญ่/อุบัติเหตุที่สำคัญจากศูนย์บริหารการจราจรและอุบัติเหตุกรมทางหลวง พร้อมบันทึกข้อมูลในระบบ HAIM
5. ด้านการรายงานจราจร
รายงานสภาพการจราจรบนทางหลวง 12 เส้นทางสายหลัก และมอเตอร์เวย์ โดยจัดการจราจรผ่านโดรน รายงานสดสภาพการจราจรทั้งมุมสูงและกล้อง CCTV แบบ Real Time ผ่านโมบายแอปพลิเคชัน Thailand Highway Traffic M Traffic และเว็บไซต์ http://www.highwaytraffic.go.th โดยมีเส้นทางที่รายงาน ได้แก่ 1) บริเวณต่างระดับบางปะอิน 2) ทล.1 และ ทล.9 (ต่างระดับ มจร.) 3) ทล.1 ช่วงวังน้อย – สระบุรี 4) ทล.2 ช่วงกลางดง 5) ทล.2 ช่วงลำตะคองและมอเตอร์เวย์สาย M6 6) ทล.304 ช่วง กม. ที่ 120 – 126 (ต่างระดับขำขวางและแยกเขาหินซ้อน) 7) ทล.348 ช่วงช่องตะโก ทล.32 สายเอเชีย 9) ทล.35 ช่วงพระราม 2 และ 10) สายอื่น ๆ ที่มีการจราจรติดขัด
6. ด้านการบริหารจัดการจราจรในพื้นที่ที่มีงานก่อสร้าง
– คืนพื้นผิวจราจรที่อยู่ระหว่างการก่อสร้างจัดการจราจรให้เรียบร้อย สะดวก ปลอดภัย
– ให้ดำเนินการประชาสัมพันธ์ร่วมกับหน่วยงานในพื้นที่เพื่อให้ผู้ใช้ทางทราบ
– ให้ตรวจสอบพื้นที่บริเวณก่อสร้างให้มีความเรียบร้อย ตรวจสอบป้ายเตือน ป้ายจราจร ไฟสัญญาณ ไฟฟ้าแสงสว่าง และอุปกรณ์อำนวยความปลอดภัยต่าง ๆ ให้เป็นไปตามมาตรฐานงานก่อสร้างและให้อยู่ในสภาพใช้งานตลอดเวลา
– ให้จัดหน่วยซ่อมบำรุงเพื่อซ่อมผิวทาง ไหล่ทาง และอุปกรณ์งานทางให้อยู่ในสภาพใช้งานตลอดเวลา
7. ด้านการประชาสัมพันธ์รณรงค์ให้ประชาชนใช้ทางเลี่ยงแทน อาทิ
– เส้นทางสู่ภาคเหนือสามารถใช้ ทล.240 (กรุงเทพฯ – สุพรรณบุรี – ชัยนาท – นครสวรรค์)
– เส้นทางสู่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือสามารถใช้ ทล.304 เพื่อกระจายปริมาณจราจรจากเส้นทางหลัก ทล.2
– เส้นทางสู่ภาคตะวันออกสามารถใช้ ทล.36 และ ทล.344 เพื่อเลี่ยงรถติดบนทางหลวงพิเศษหมายเลข 7 และใช้ ทล.34 เพื่อกระจายปริมาณรถบนทางหลวงพิเศษหมายเลข 7 เพื่อไปยังจังหวัดชลบุรีและพัทยา
สำหรับการบริหารการจราจรมอเตอร์เวย์ M6 ช่วงปากช่อง – สีคิ้ว – ขามทะเลสอ ช่วงขาออกวันที่ 13 – 14 พ.ศ.กรกฎาคม 2565 และขาเข้าวันที่ 15 – 17 กรกฎาคม พ.ศ.2565 มีรูปแบบการให้บริการเดินรถทางเดียว โดยจะเปิดช่องจราจรด้านขวาทาง (ด้านขาเข้า) จำนวน 2 ช่องจราจรเท่านั้น สำหรับช่องจราจรด้านซ้ายทาง (ด้านขาออก) จะสงวนไว้ใช้สำหรับบริการฉุกเฉินเฉพาะเจ้าหน้าที่เท่านั้น โดยเปิดให้บริการมีจุดเข้า – ออกตามแผนที่ดังนี้
จุดที่ 1 : จุดเข้า – ออก มอเตอร์เวย์ M6 ทล.2 ที่ กม. 65 (ศูนย์พักพิงสุนัขจรจัดฯ)
จุดที่ 2 : จุดเข้า – ออก มอเตอร์เวย์ M6 ทล.201 ที่ กม. 5+500 (บ้านหนองรี ตำบลสีคิ้ว)
จุดที่ 3 : จุดเข้า – ออก มอเตอร์เวย์ M6 ทล.2068 ที่ กม. 8+607 (บ้านพวงพยอม ตำบลขามทะเลสอ)
จากจุดเข้า – ออก มอเตอร์เวย์ M6 ทล.2068 ที่ กม. 8+607
จุดที่ 3 : เลี้ยวซ้ายเดินทางไปอำเภอด่านขุนทดและโนนไทย
จุดที่ 3 – 4 : ไปสู่ทางต่างระดับขามทะเลสอ ทล.290 ตัด ทล.2068
จุดที่ 4 – 7 : ไปสู่ ทล.2 ตัด ทล.2068 เดินทางเข้า ทล.2 ไปนครราชสีมาได้
จุดที่ 4 – 5 – 6 : ไปตามถนนวงแหวนรอบเมืองนครราชสีมา ทล.290 เลี้ยวซ้ายไปอำเภอโนนไทย จังหวัดชัยภูมิ หรือเลี้ยวขวาไปจังหวัดขอนแก่น
จุดที่ 4 – 8 : ไปอำเภอโชคชัย จังหวัดบุรีรัมย์
โดยสำนักงานทางหลวงที่ 10 แขวงทางหลวงนครราชสีมาที่ 2 ซึ่งเป็นหน่วยงานในพื้นที่ได้เตรียมพร้อมอำนวยความสะดวกปลอดภัยดังนี้
– ติดตั้งป้ายและอุปกรณ์อำนวยความปลอดภัย
– อนุญาตให้เฉพาะรถยนต์ส่วนบุคคล 4 ล้อเท่านั้น และจำกัดความเร็วไม่เกิน 80 กิโลเมตร/ชั่วโมง
– ตั้งจุดบริหารการจราจร คัดกรองรถเข้าสู่ทางหลวงมอเตอร์เวย์ M6 โดยช่วงขาออกวันที่ 13 – 14 กรกฎาคม 2565 มี 1 จุดคือ ทล.2 ที่ กม. 65+000 และช่วงขาเข้าวันที่ 15 – 17 กรกฎาคม พ.ศ. 2565 มี 2 จุด คือ ทล.201 ที่ กม. 5+500 และ ทล.2068 ที่ กม. 8+607
– ตั้งจุดบริการห้องน้ำ 1 จุด บริเวณ Rest Area ที่ กม. 147
– กรณีเกิดอุบัติเหตุโดยจัดประตูทางออกฉุกเฉินรวม 11 จุด ที่ กม. 122+250 กม. 129+600 กม. 133+910 กม. 139+900 กม. 145+000 กม. 150+350 กม. 160+200 กม. 165+100 กม. 170+000 กม. 175+000 และ กม. 179+200