Friday, November 22, 2024
Latest:
News

จระเข้ เผยโฉม “SEE JORAKAY Flagship Store” จัดแสดงโซลูชันสีทาอาคารแบบครบวงจร พร้อมลุยตลาดสีปลอดภัย ใส่ใจสิ่งแวดล้อม

บริษัท จระเข้ คอร์ปอเรชั่น จำกัด ตัวจริงนวัตกรรมก่อสร้างครบวงจรเพื่อความสุขของทุกคนในครอบครัว เดินหน้าลุยเจาะตลาดสีเมืองไทยมูลค่ากว่า 30,000 ล้านบาท ชูผลิตภัณฑ์สีจระเข้ (SEE JORAKAY) ที่มีจุดเด่นด้านคุณภาพมาตรฐานระดับโลก เน้นจุดเด่นความปลอดภัยสูงสุดที่ใส่ใจผู้อยู่อาศัย พร้อมด้วยคุณสมบัติผลิตภัณฑ์ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ด้วยการเลือกใช้วัตถุดิบที่มาจากธรรมชาติให้ได้มากที่สุด ภายใต้แนวความคิดของ “สีปลอดภัย สีธรรมชาติ สีจระเข้” ล่าสุดเผยโฉมแฟล็กชิปสโตร์สุดทันสมัย “SEE JORAKAY Flagship Store” ปักหมุดเป็นพื้นที่จัดแสดงสินค้าสีครบครันเพื่อเป็นแหล่งกำเนิดไอเดียในการใช้สีทาอาคารและสีสร้างลวดลายเพื่อตกแต่งพื้นที่ได้ตามสไตล์ที่ชอบ เน้นตอบโจทย์เทรนด์การออกแบบยุคใหม่ โดยจระเข้ คาดการณ์ปีนี้ตลาดสีจะเติบโตราว 3-5% ด้วยแรงหนุนหลายปัจจัย อาทิ การท่องเที่ยว การรีโนเวทบ้านและอาคาร และโครงการสนับสนุนของภาครัฐ

ปัจจุบันผู้บริโภคตระหนักเรื่องสีปลอดสารเคมีอันตรายและความเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมมากขึ้นเรื่อย ๆ “สีจระเข้” จึงเล็งเห็นโอกาสที่สามารถเติบโตอย่างมั่นคงในธุรกิจวัสดุก่อสร้างครบวงจร จึงได้ผลักดันแคมเปญการตลาดเพื่อสร้างการรับรู้เกี่ยวกับ SEE JORAKAY อย่างต่อเนื่อง โดยที่ผ่านมา SEE JORAKAY ถือเป็นผู้บุกเบิกรายแรกในประเทศไทยที่นำ GRAPHENE TECHNOLOGY ซึ่งเป็นนวัตกรรม Super Material ที่ได้รับรางวัลโนเบลมาใช้เป็นส่วนผสมในสีทาอาคาร ช่วยเสริมความแข็งแกร่งและทนทาน โดยกลุ่มผลิตภัณฑ์สีจระเข้ ครอบคลุมทุกมิติของการทาสี ตั้งแต่ Natural Color สีจากหินปูนธรรมชาติผสานเทคโนโลยีกราฟีน มีส่วนช่วยในการลดภาวะโลกร้อน เนื้อสีด้าน สบายตา, Texture Color สีสร้างลาย มอบดีไซน์ 3 มิติในสไตล์ธรรมชาติ ชูความทนทานยาวนานถึง 15 ปี พร้อมทนต่อ UV และไอเกลือทะเล, Art Color สีทาผนังและปูนเปลือยขัดมันสไตล์ลอฟต์ โดดเด่นด้วยวัตถุดิบซีเมนต์จากธรรมชาติ สีเนื้อแน่น ปกปิดดี ทนทาน และผนึกได้ดีกับผนังซีเมนต์โดยไม่ต้องทารองพื้น, Heritage Color สีเพื่อการบูรณะอาคารโดยเฉพาะ รวมไปถึงผลิตภัณฑ์ Primer และ Coating เพื่อมอบการดูแลปกป้องที่ครบวงจร ปัจจุบันมีโครงการจำนวนมากที่ให้ความสำคัญกับคุณภาพ ความทนทาน และมาตรฐานความปลอดภัยและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม พร้อมให้ความไว้วางใจเลือกใช้สีจระเข้ อาทิ Casa MYKA Pattaya คาเฟ่ชื่อดังดีไซน์เก๋ในพัทยา และ Villa Hokulani พูลวิลล่าบนเกาะสมุย

สำหรับผลิตภัณฑ์สีจระเข้ เป็นผลิตภัณฑ์ที่ได้รับมาตรฐานสากลที่ยืนยันความปลอดภัยต่อสุขภาพและสิ่งแวดล้อม อาทิ Cradle to Cradle มาตรฐานผลิตภัณฑ์ที่ไม่ทำลายสิ่งแวดล้อม, Global Green Tag ระดับ A Level, Global Green Tag Health Rate ระดับ Platinum รับรองการปลอดสารที่ส่งผลต่อสุขภาพ, Eurofins ระดับ A+ รับรองความปลอดภัยสูงสุดจากการระเหยของสารพิษ และ Sensitive Choice โดยสถาบันโรคหอบหืด ประเทศออสเตรเลีย ที่รับรองว่าไม่ก่อให้เกิดอาการแพ้และปลอดภัยต่อระบบทางเดินหายใจ สีจระเข้ จึงเป็นตัวเลือกที่เหมาะสมสำหรับผู้ที่ต้องการความปลอดภัยระดับโลกในการตกแต่งบ้าน อาคาร ไปจนถึงโครงการขนาดใหญ่ เพื่อสร้างที่อยู่อาศัยและอสังหาริมทรัพย์ที่ปลอดภัยต่อทุกชีวิตและสิ่งแวดล้อม

วรชาติ โชครัศมีดาว ผู้จัดการฝ่ายบริหารการตลาดผลิตภัณฑ์สีจระเข้ บริษัท จระเข้ คอร์ปอเรชั่น จำกัด เผยว่า สีจระเข้ เป็นกลุ่มผลิตภัณฑ์ที่มีจุดแข็งคือการพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่ต้องมีความปลอดภัยต่อผู้ใช้งาน ผู้อยู่อาศัย และเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม เราใส่ใจในทุกขั้นตอนการวิจัยและพัฒนาผลิตภัณฑ์ ทั้งการเลือกใช้วัตถุดิบและกระบวนการผลิต ดังนั้นกลุ่มลูกค้าหลักของเรา คือ ผู้บริโภคที่ใส่ใจสุขภาพ ความปลอดภัย และให้ความสำคัญกับการใช้ผลิตภัณฑ์ที่ไม่ทำลายสิ่งแวดล้อม ซึ่งเป็นฐานลูกค้าที่ใหญ่ขึ้นเรื่อย ๆ ทั้งหมดนี้สอดคล้องกับเทรนด์สียุคใหม่ทั้งในไทยและทั่วโลก เนื่องจากปัจจุบันลูกค้าไม่ได้มองเพียงความสวยงามของสีเท่านั้น แต่ยังต้องใส่ใจและตระหนักถึงข้อมูลที่เกี่ยวกับค่ามาตรฐานต่าง ๆ และมองหาสัญลักษณ์ที่รับรองเรื่องความปลอดภัยต่อสุขภาพ ชีวิต และสิ่งแวดล้อม สำหรับผลิตภัณฑ์สี แน่นอนว่าคงหนีไม่พ้นเรื่องสารอินทรีย์ระเหยง่าย (Volatile Organic Compounds – VOCs) ที่ส่งผลต่อระบบทางเดินหายใจ รวมไปถึงฟอร์มาลดีไฮด์ หรือสารก่อมะเร็งที่จะส่งผลต่อสุขภาพในระยะยาว ซึ่งปัจจุบันผู้บริโภคตระหนักในเรื่องสุขภาพและสิ่งแวดล้อมมากขึ้นเรื่อย ๆ คาดว่าในอนาคตจะกลายมาเป็นปัจจัยสำคัญในการเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ ซึ่งสีจระเข้สามารถตอบโจทย์ความต้องการเรื่องสีปลอดภัยและสีธรรมชาติได้เป็นอย่างดี ปีนี้เราจึงลุยแคมเปญการตลาดเพื่อโปรโมตผลิตภัณฑ์สีคุณภาพสูงอย่างเต็มที่ พร้อมด้วยการเปิดโฉมใหม่ของ SEE JORAKAY Flagship Store หวังให้เป็นพื้นที่แห่งแรงบันดาลใจให้คนรักบ้านและดีไซน์ได้มาสัมผัสงานจริงและได้ไอเดียใหม่ ๆ กลับไป

สำหรับ “SEE JORAKAY Flagship Store” ณ สำนักงานใหญ่ บนถนนกรุงเทพกรีฑา สโตร์สีครบวงจรสำหรับคนรักบ้านและคนในแวดวงดีไซน์แห่งนี้ ออกแบบขึ้นในสไตล์โมเดิร์นทันสมัย ภายใต้คอนเซปต์ “สตูดิโอสีสันแห่งแรงบันดาลใจไม่รู้จบ” (The Color Studio of Boundless Inspiration) เรียกได้ว่าเป็น Shop ที่มากกว่า Shop จำหน่ายสินค้าธรรมดาๆ แต่ลูกค้าสามารถเข้ามาเดินชมพาเลตต์สีและผิวสัมผัสจริงที่ตอบโจทย์งานดีไซน์และการแต่งบ้านทุกสไตล์ได้อย่างจุใจ พร้อมสัมผัสประสบการณ์สุดพิเศษในโซนไฮไลต์กับหน้าจอสัมผัสล้ำสมัยที่ลูกค้าสามารถเลือกนำสีและการสร้างลวดลายด้วยผลิตภัณฑ์สีจระเข้มาแต่งแต้มอาคารได้ตามจินตนาการด้วยระบบ RFID เพื่อจุดประกายไอเดียใหม่ ๆ จากการได้เห็นชิ้นงานจริง ทั้งยังมีฟังก์ชันดูภาพโครงการที่ใช้สีจระเข้ด้วยเทคโนโลยีภาพแบบ 360 องศา เสมือนว่าผู้เข้าชมนั้นได้ไปเยี่ยมชมในโครงการจริง ๆ โดยผู้มาเยือนจะได้รับคำแนะนำเกี่ยวกับคุณสมบัติพิเศษและการใช้งานที่เหมาะสมของสีแต่ละประเภทจากผู้เชี่ยวชาญด้านสีอย่างใกล้ชิด

พัฒน์ทวี ทันประเสริฐ ผู้จัดการส่วนบริหารการตลาดผลิตภัณฑ์สีจระเข้ บริษัท จระเข้ คอร์ปอเรชั่น จำกัด กล่าวว่า ในปีนี้เราเดินกลยุทธ์การเข้าถึงกลุ่มนักออกแบบรุ่นใหม่ ในเวทีประกวดงานดีไซน์จากสีจระเข้สุดยิ่งใหญ่ “SEE JORAKAY SCULPTURE DESIGN CONTEST” ท้าประลองไอเดียนักศึกษา ชวนออกแบบประติมากรรมด้วยผลิตภัณฑ์สีสร้างลายที่สามารถสร้างสรรค์ผิวสัมผัสได้แบบไร้ขีดจำกัดภายใต้แนวคิด Creative Texture Design with COLOR STUCCO พร้อมชิงเงินรางวัลรวม 250,000 บาท เรากำหนดโจทย์เพื่อท้าทายความคิดสร้างสรรค์ของคนรุ่นใหม่ และโชว์ให้เห็นว่า สีสร้างลายนั้น สามารถนำไปครีเอตเป็นประติมากรรมที่ตอบโจทย์ด้านความสวยงามและฟังก์ชันการใช้งานจริงได้ โครงการได้รับความสนใจจากคนรุ่นใหม่ที่ส่งผลงานสุดสร้างสรรค์มาร่วมประกวดกว่า 137 ผลงาน โดยงานที่ได้รับรางวัลจะมีโอกาสสร้างเป็นชิ้นงานจริง เพื่อเป็นแลนด์มาร์กใหม่ที่สำนักงานใหญ่ของเรา โดยลวดลายที่น้อง ๆ สร้างขึ้นจากสีจระเข้ เราอาจเลือกนำไปเป็นลวดลายใหม่สำหรับสีสร้างลายหรือ Texture Color ของ SEE JORAKAY โดยในวันที่ 5 ตุลาคมนี้ น้อง ๆ ที่เข้ารอบสุดท้ายจะได้นำเสนอผลงานให้แก่คณะกรรมการและเราจะประกาศผลรางวัลพร้อมจัดแสดงผลงานแบบจำลอง ในงาน “บ้านและสวนแฟร์ LIVING FESTIVAL” ระหว่างวันที่ 25 ตุลาคม ถึง 3 พฤศจิกายน 2567 นี้