รมว.คมนาคมสั่งการ ทอท.ให้บริการผู้โดยสารช่วงสงกรานต์อย่างรวดเร็วและปลอดภัย คาดมีผู้ใช้บริการกว่า 2.61 ล้านคน
สุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เปิดเผยว่า จากการประชุมเตรียมความพร้อมการดำเนินการตามแผนการอำนวยความสะดวกและความปลอดภัยรองรับการเดินทางของประชาชนช่วงเทศกาลสงกรานต์ พ.ศ. 2567 ในทุกมิติทั้งบก ราง น้ำ และอากาศ รวมทั้งให้บูรณาการความร่วมมือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง โดยมีเป้าหมายให้ประชาชนเดินทางถึงที่หมายได้อย่างสะดวกและปลอดภัย ตามนโยบาย “เดินทางทั่วไทย คมนาคม สะดวก ปลอดภัย ใส่ใจให้บริการประชาชน” ซึ่งทุกหน่วยงานได้เตรียมความพร้อมอำนวยความสะดวกแก่ประชาชน และกำกับดูแลการให้บริการ มาตรฐานความปลอดภัย รวมทั้งแจ้งข้อมูลข่าวสารการเดินทางแก่ประชาชนล่วงหน้าเพื่อวางแผนการเดินทาง ในส่วนของการเดินทางทางอากาศ ได้สั่งการให้บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) หรือทอท. ซึ่งบริหารท่าอากาศยานหลักของประเทศ ได้แก่ ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ (ทสภ.) ท่าอากาศยานดอนเมือง (ทดม.) ท่าอากาศยานเชียงใหม่ (ทชม.) ท่าอากาศยานแม่ฟ้าหลวง เชียงราย (ทชร.) ท่าอากาศยานภูเก็ต (ทภก.) และท่าอากาศยานหาดใหญ่ (ทหญ.) บูรณาการความร่วมมือกับหน่วยงานที่ให้บริการในท่าอากาศยานในการบริหารจัดการอำนวยความสะดวกอย่างมีประสิทธิภาพ เพื่อให้เกิดความรวดเร็วในทุกกระบวนการ ทั้งในส่วนของผู้โดยสารขาเข้าและขาออก การจัดเจ้าหน้าที่ดูแลและให้ความช่วยเหลือผู้โดยสารในทุกขั้นตอน รวมทั้งรักษามาตรฐานด้านความปลอดภัย และเชื่อมโยงกับระบบคมนาคมขนส่งอย่างไร้รอยต่อ
ทั้งนี้กระทรวงคมนาคมและ ทอท. ได้จัดที่จอดรถยนต์ฟรีบริเวณลานจอดรถยนต์ระยะยาว โซน D ทสภ. ตั้งแต่วันที่ 12 – 16 เมษายน 2567 และที่ ทดม. บริเวณระหว่างอาคารคลังสินค้า 2 และอาคารจอดรถยนต์ 5 ชั้น ตั้งแต่วันที่ 11 – 17 เมษายน 2567 พร้อมจัดเตรียมรถรับ – ส่งให้บริการระหว่างจุดจอดรถไปยังอาคารผู้โดยสาร นอกจากนี้ ได้เน้นย้ำ ทอท. ในเรื่องการให้บริการภาคพื้นทั้งการเช็กอิน การตรวจคนเข้าเมือง การลำเลียงกระเป๋าสัมภาระ รวมทั้งทุกขั้นตอนต้องมีความสะดวกและรวดเร็ว สำหรับการให้บริการรถโดยสารสาธารณะที่ ทสภ. ทดม. ทชม. และ ทภก. ได้มีการเปิดให้บริการรถรับจ้างผ่าน Grab Application เพื่อเพิ่มทางเลือกให้แก่ผู้โดยสารและการบริหารจัดการการจราจรเพื่อลดความหนาแน่นของรถยนต์ในท่าอากาศยาน
สำหรับคาดการณ์ปริมาณผู้โดยสารและเที่ยวบินช่วงสงกรานต์ปี 2567 ระหว่างวันที่ 11 – 17 เมษายน 2567 คาดว่าจะมีผู้โดยสารมาใช้บริการท่าอากาศยานของ ทอท. ทั้ง 6 แห่ง มากกว่า 2.61 ล้านคน เพิ่มขึ้น 28.50% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน แบ่งเป็น ผู้โดยสารระหว่างประเทศ 1.65 ล้านคน เพิ่มขึ้น 46.00% และผู้โดยสารภายในประเทศ 962,362 คน เพิ่มขึ้น 6.59% และคาดว่าจะมีเที่ยวบินรวม 15,113 เที่ยวบิน เพิ่มขึ้น 16.71% แบ่งเป็น เที่ยวบินระหว่างประเทศ 8,682 เที่ยวบิน เพิ่มขึ้น 32.53% และเที่ยวบินภายในประเทศ 6,431 เที่ยวบิน เพิ่มขึ้น 0.52%
ขณะที่ ทสภ. คาดว่าจะมีผู้โดยสารประมาณ 1.34 ล้านคน เพิ่มขึ้น 36.73% เที่ยวบิน 7,022 เที่ยวบิน เพิ่มขึ้น 21.13% ทดม. ผู้โดยสาร 625,530 คน เพิ่มขึ้น 14.83% เที่ยวบิน 4,117 เที่ยวบิน เพิ่มขึ้น 10.58% ทชม. ผู้โดยสาร 199,563 คน เพิ่มขึ้น 34.83% เที่ยวบิน 1,152 เที่ยวบิน เพิ่มขึ้น 6.96% ทชร. ผู้โดยสาร 41,318 คน เพิ่มขึ้น 16.71% เที่ยวบิน 281 เที่ยวบิน เพิ่มขึ้น 18.07% ทภก. ผู้โดยสาร 355,501 คน เพิ่มขึ้น 31.97% เที่ยวบิน 2,161 เที่ยวบิน เพิ่มขึ้น 24.77% และ ทหญ. ผู้โดยสาร 53,894 คน ลดลง 6.92% เที่ยวบิน 380 เที่ยวบิน ลดลง 0.52%
ด้านกีรติ กิจมานะวัฒน์ กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) หรือทอท. กล่าวว่า ทอท. พร้อมดำเนินการตามข้อสั่งการของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม โดยจะมีการจัดตั้งศูนย์ประสานงานและอำนวยความสะดวกและศูนย์ความปลอดภัยคมนาคม ซึ่งมีหน่วยงานที่เกี่ยวข้องบูรณาการการทำงานและประสานงานด้านการข่าวร่วมกันตลอด 24 ชั่วโมง รวมทั้งมีการเพิ่มมาตรการการรักษาความปลอดภัยและเตรียมความพร้อมต้อนรับผู้โดยสาร ทั้งนี้ ในช่วงเทศกาลสงกรานต์ อาจมีผู้ใช้บริการจำนวนมาก โดยเฉพาะที่ ทดม. อาจมีรถหนาแน่นบริเวณชานชาลาอาคารผู้โดยสารขาเข้าและขาออก ทอท. จึงได้กำหนดให้รถแท็กซี่สาธารณะทุกคันใช้ช่องทาง PASSENGER DROP LANE พร้อมจัดเตรียมเจ้าหน้าที่อำนวยความสะดวก ให้คำแนะนำ และให้ความช่วยเหลือแก่ผู้โดยสารบริเวณช่องทาง PASSENGER DROP LANE ประตู 16 และ 17 ตลอด 24 ชั่วโมง ยกเว้นรถแท็กซี่สาธารณะที่มีผู้โดยสารที่ต้องการความช่วยเหลือเป็นกรณีพิเศษ หรือต้องการใช้รถวีลแชร์ หรือนำรถวีลแชร์มาด้วยให้ส่งผู้โดยสารที่บริเวณประตู 5 อาคารผู้โดยสารระหว่างประเทศ (ขาออก) อาคาร 1 ทดม. ทั้งนี้ ทอท. ขอความร่วมมือผู้โดยสารเผื่อเวลาเดินทางล่วงหน้า 2 – 3 ชั่วโมง เพื่อป้องกันการพลาดเที่ยวบิน