Monday, November 25, 2024
Latest:
News

รมว.คมนาคมเร่งผลักดันพัฒนาโครงข่ายถนนร้อยเอ็ด-กาฬสินธุ์-มหาสารคามเพิ่มศักยภาพการเดินทาง สนับสนุนการขนส่งสินค้าเกษตรและอุตสาหกรรม ช่วยแก้ปัญหาอุทกภัย

สุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม พร้อมด้วย มนพร เจริญศรี รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม ประชุมติดตามความคืบหน้าโครงการสำคัญของหน่วยงานในสังกัดกระทรวงฯ ในพื้นที่ จ.ร้อยเอ็ด กาฬสินธุ์ และมหาสารคาม โดยมี ชยธรรม์ พรหมศร ปลัดกระทรวงคมนาคม และผู้บริหารหน่วยงานในสังกัดกระทรวงฯ เข้าร่วมประชุม ผู้ว่าราชการจังหวัด หัวหน้าส่วนราชการในพื้นที่ ผู้นำท้องถิ่น ผู้แทนภาคเอกชน และประชาชนให้การต้อนรับ เมื่อเร็วๆ นี้ ณ ห้องประชุมพระธาตุนาดูน สำนักงานทางหลวงที่ 8 มหาสารคาม พร้อมลงพื้นที่ติดตามการแก้ไขปัญหาตลิ่งริมแม่น้ำชีทรุดตัว ถนน ทล. 213 (ตู้ยามบ้านดินดำ) อ.เมือง จ.มหาสารคาม หอประชุมที่ว่าการ อ.ศรีสมเด็จ และองค์การบริหารส่วนตำบลนาเมือง อ.เสลภูมิ จ.ร้อยเอ็ด

สุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ กล่าวว่า การเดินทางมาตรวจราชการในครั้งนี้เพื่อติดตามความคืบหน้าโครงการสำคัญต่าง ๆ ของหน่วยงานในสังกัดกระทรวงฯ พร้อมประชุมมอบนโยบายให้หน่วยงานในสังกัดเร่งพัฒนาด้านโครงสร้างพื้นฐาน เส้นทางคมนาคมขนส่งให้ประชาชนได้รับประโยชน์สูงสุดในการขนส่งสินค้า การเดินทาง และการท่องเที่ยวตามนโยบายของรัฐบาล โดยได้กำชับให้หน่วยงานในสังกัดกระทรวงฯ มุ่งเน้นการดูแลบริการประชาชนด้านการคมนาคมเป็นหัวใจสำคัญ รวมถึงเส้นทางคมนาคมจากเมืองสู่ชุมชนให้สะดวกปลอดภัย

“ในวาระรัฐบาลชุดนี้ กระทรวงฯ จะพัฒนาการคมนาคมขนส่งกระตุ้นเศรษฐกิจ การค้า และการท่องเที่ยวได้มากที่สุด จึงได้เร่งผลักดันโครงการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานและโครงข่ายสำคัญในพื้นที่กลุ่มจังหวัดอย่างต่อเนื่อง โดยมีโครงการสำคัญที่อยู่ระหว่างดำเนินการ เช่น โครงการก่อสร้างเพิ่มช่องจราจร ทล. 202 สาย อ.สุวรรณภูมิ – ยโสธร ทล. 2083 สาย อ.มหาชนะชัย – อ.คำเขื่อนแก้ว โครงการก่อสร้างสะพานข้ามแม่น้ำชี โครงการก่อสร้าง ทล. 2040 ตอน มหาสารคาม – วาปีปทุม ทล. 215 ร้อยเอ็ด – อ.ท่าตูม – บ้านหนองเม็ก – บ้านหนองสาหร่าย ทล.213 ตอน มหาสารคาม – หนองขอน สำหรับแผนการพัฒนาโครงข่ายทางหลวง จ.มหาสารคามเร่งด่วน ได้แก่ โครงการก่อสร้าง ทล. 2040 มหาสารคาม – พยัคฆภูมิพิสัย ตอน อ.วาปีปทุม – อ.พยัคฆภูมิพิสัย ทล. 219 อ.สตึก – อ.พยัคฆภูมิพิสัย ทล. 2322 ตอน โกสุมพิสัย – เชียงยืน และ ทล. 2063 ตอนบรบือ – โคกสี เป็น 4 ช่องจราจร โครงการทางเลี่ยงเมืองมหาสารคามด้านตะวันออกและทางเลี่ยงเมือง อ.โกสุมพิสัย และโครงการก่อสร้าง ทล. 213 มหาสารคาม – ห้วยปลาหลด เป็น 6 ช่องจราจร”  รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม กล่าว

จากนั้น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม พร้อมคณะ ได้ลงพื้นที่ติดตามการแก้ไขปัญหาตลิ่งริมแม่น้ำชีทรุดตัว บริเวณ ทล. 213 (ตู้ยามบ้านดินดำ) เนื่องจากผลกระทบจากอุทกภัย โดยก่อสร้างโครงสร้างป้องกันตลิ่งส่วนล่างด้วยคันหินยาแนว ก่อสร้างกำแพงกันดินคอนกรีตเสริมเหล็กสูง 6 เมตร ฐานรากชนิดเข็มต่อตามแบบมาตรฐานกรมทางหลวง พร้อมกับขยายช่องจราจรมีทางเดินเท้าและระบบระบายน้ำไปด้วย ที่ผ่านมาในช่วงเดือนสิงหาคม – กันยายน 2566 มีท่อส่งน้ำขนาดใหญ่ของการประปาส่วนภูมิภาคในแนวเขตก่อสร้าง

และในช่วงเดือนกันยายน – พฤศจิกายน 2566 ได้รับผลกระทบจากการระบายน้ำของเขื่อนอุบลรัตน์ ทำให้มีปริมาณน้ำในแม่น้ำชีมีระดับสูงขึ้นกว่าระดับตอกเสาเข็ม จึงไม่สามารถนำเครื่องจักรเข้าพื้นที่ก่อสร้างได้ แต่ขณะนี้สามารถดำเนินการได้ตามปกติแล้ว จึงได้เร่งดำเนินการและคาดว่าจะแล้วเสร็จภายในเดือนกุมภาพันธ์ 2567 ซึ่งเมื่อแล้วเสร็จจะช่วยแก้ไขปัญหาอุทกภัยอย่างยั่งยืน เพิ่มความมั่นคงแข็งแรงของโครงสร้างทางหลวง แก้ไขปัญหาการจราจรบนถนนเส้นนี้ให้ประชาชนเดินทางได้อย่างปลอดภัยสะดวกรวดเร็วมากขึ้น

มนพร เจริญศรี รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม กล่าวว่า ภายหลังจากได้ลงพื้นที่ตรวจสอบปัญหาบริเวณ ทล. 213 บริเวณตู้ยามตำรวจบ้านดินดำ ตำบลเกิ้ง อ.เมืองมหาสารคาม ที่ได้รับผลกระทบจากลำน้ำชีเอ่อล้น เมื่อปี 2566 ที่ผ่านมา เนื่องจากอยู่ติดตลิ่งเกิดน้ำกัดเซาะตลิ่งทำให้ถนนทรุด ได้มอบหมายให้กรมทางหลวงและกรมเจ้าท่าประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งสร้างเขื่อนกั้นตลิ่งพังแก้ปัญหาอย่างถาวรในระยะยาว คาดว่าจะสามารถดำเนินการได้ในปีงบประมาณ 2568 นอกจากนี้ภาครัฐและเอกชนได้เสนอโครงการพัฒนาก่อสร้างสนามบิน จ.มหาสารคาม เรียกว่า สนามบินสารสินธุ์ เพื่อพัฒนาเศรษฐกิจ การค้าการท่องเที่ยวเชื่อมกับอีกหลายจังหวัดทั่วประเทศ

“ปัญหาของพี่น้องประชาชนที่เสนอมายังกระทรวงคมนาคม ได้รับไว้พิจารณาเร่งด่วนตามลำดับความสำคัญทั้งหมด เช่น โครงการแก้ไขปัญหาน้ำท่วมในพื้นที่ติดลำน้ำชีที่เชื่อมระหว่างจังหวัดร้อยเอ็ดกับมหาสารคาม โครงการขุดลอกต่างตอบแทน “ขุดดินแลกน้ำ” ของกรมเจ้าท่า เพื่อจะไม่ให้ลำน้ำชีตื้นเขิน และการกำจัดวัชพืชในช่วงที่มีน้ำหลากที่จะเป็นการแก้ไขปัญหาในระยะยาว”  มนพร กล่าว