Friday, November 22, 2024
Latest:
Property

พฤกษา โฮลดิ้ง แย้มผลประกอบการ 9 เดือนแรกปี’66 รายได้เติบโต 9% พร้อมกำไรสุทธิเติบโต 30%

กรุงเทพฯ -13 พฤศจิกายน 2566 : “พฤกษา โฮลดิ้ง” โชว์ผลการดำเนินงาน 9 เดือนแรก ปี 2566 มีรายได้รวม 19,900 ล้านบาท เติบโต 9% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปี 2565 พร้อมทำกำไรสุทธิ 2,082 ล้านบาท เติบโต 30%

อุเทน โลหชิตพิทักษ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่ม บริษัท พฤกษา โฮลดิ้ง จำกัด (มหาชน) เปิดเผยผลการดำเนินงาน 9 เดือนแรก ปี 2566 ว่า พฤกษา โฮลดิ้ง หรือ PSH ทำรายได้รวม 19,900 ล้านบาท เติบโต 9% มาจากการโอนบ้านเดี่ยวและคอนโดที่ดีขึ้น และรายได้ของกลุ่มธุรกิจเฮลท์แคร์ที่ไม่เกี่ยวข้องกับ COVID-19เพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ รวมกับรายได้อื่น ๆ ที่มาจากการปรับโครงสร้างของทั้งธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ และธุรกิจเฮลท์แคร์ ให้เป็นหน่วยสร้างกำไร มีกำไรสุทธิ 2,082 ล้านบาท เติบโต 30% เมื่อเทียบกับ 9 เดือนแรกของปี 2565 ในไตรมาส 3 ที่ผ่านมา มีกำไร 80 ล้านบาท จากการโอนกิจการ แลปพลัส วัน ในเครือโรงพยาบาล เทพธารินทร์ ให้แก่ อินโนเควสท์ ไดแอคโนสติกส์ วัน ซึ่งเป็นบริษัทร่วมทุนระหว่าง PAH (Thailand) Pte. Ltd. และ โรงพยาบาลวิมุตโฮลดิ้ง

ล่าสุดบริษัทฯ ได้จับมือกับพันธมิตรธุรกิจ แคปปิตอลแลนด์ อินเวสเม้นท์ ลิมิเต็ด (CapitaLand Investment Limited) ยักษ์ใหญ่ด้านจัดการการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ชั้นนำระดับโลก จัดตั้งกองทุน C-WELL เดินหน้าลงทุนสินทรัพย์เพื่อส่งเสริมสุขภาพและการอยู่อาศัย “อยู่ดี มีสุข” พร้อมขยายตลาดเอเชียตะวันออกเฉียงใต้มูลค่า 25,000 ล้านบาท ซึ่งจะเพิ่มสัดส่วนสร้างรายได้ประจำ (Recurring income) รวมถึงรายได้จากการให้บริการโดยโรงพยาบาลวิมุต และยังสนับสนุนธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ จากการนำที่ดินที่มีอยู่ในมือเข้ากองทุนเพื่อพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ที่ส่งเสริมการดูแลสุขภาพ และสร้างมาตรฐานใหม่ให้วงการพัฒนาที่อยู่อาศัยในภูมิภาคนี้

Chapter One Spark Charan

ด้านธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ มียอดขาย 9 เดือนแรก 14,241 ล้านบาท มียอดโอน 16,985 ล้านบาท มีโครงการที่เปิดขายอยู่มูลค่ารวม 62,166 ล้านบาท ซึ่งพร้อมขายและสามารถโอนได้ทันที 10,895 ล้านบาท และมียอดขายรอโอนอีกกว่า (Backlog) 5,039 ล้านบาท

อุเทน กล่าวต่อว่าในไตรมาส 4 บริษัทฯ มีแผนเปิดโครงการใหม่ 7 โครงการ ดึงจุดแข็งธุรกิจในเครือ สร้างการอยู่อาศัยให้ “อยู่ดี มีสุข” โดยผนวกความเชี่ยวชาญระหว่างธุรกิจร่วมกับโรงพยาบาลวิมุต และ ซินเนอร์จี โกรท ล่าสุด เตรียมเปิดตัวโครงการใหม่ เดอะแพลนท์ บางนา กม.5 – ศรีนครินทร์ บ้านแฝด 2 ชั้น สไตล์ Modern Barn House มอบสิทธิประโยชน์ในการใช้บริการแก่ผู้อยู่อาศัยในโครงการจากที่โรงพยาบาลวิมุตและเครือ และซินเนอร์จี โกรท ผู้พัฒนาแอปพลิเคชัน MyHaus ที่ควบคุมการเข้าถึงอุปกรณ์ภายในบ้านผ่านมือถือ การสั่งเปิด – ปิดเครื่องใช้ไฟฟ้าผ่านมือถือ การตรวจเช็กประวัติการเข้าออก การแจ้งเตือนความปลอดภัย

นอกจากนี้ โครงการยังให้ความสำคัญกับการออกแบบเพื่อความยั่งยืน เช่น ออกแบบบ้านแบบ Passive Design เพื่อช่วยระบายอากาศ ปูฉนวนหลังคาป้องกันความร้อน มีการใช้โซลาร์เซลล์ และใช้วัสดุที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม พร้อมเปิดพรีเซลในวันที่ 25 – 26 พฤศจิกายนนี้

ด้านธุรกิจเฮลท์แคร์ มีรายได้ 9 เดือนแรกราว 1,325 ล้านบาท เติบโต 71% เมื่อเทียบกับ 9 เดือนแรกของปี 2565 มาจากรายได้ที่ไม่รวมโควิดเติบโตขึ้น 102% รวมกับรายได้จากโรงพยาบาลเทพธารินทร์ รักษาโรคที่มีความซับซ้อนเพิ่มขึ้นพร้อมแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะด้านทั้งในแผนกศัลยกรรม กระดูกและข้อ รวมถึงหัวใจ ขณะเดียวกันกลุ่มวิมุตมีความมุ่งมั่นขยายการให้บริการตรวจสุขภาพกับบริษัทขนาดใหญ่และบริษัทประกัน พร้อมนำเสนอบริการเทเลเมดิซีนและการให้บริการถึงบ้าน เพื่อให้เป็นที่รู้จักและสร้างรายได้เพิ่มอย่างต่อเนื่อง รวมถึงการสร้างเครือข่ายความร่วมมือกับพันธมิตรทั้งในและต่างประเทศ ได้แก่ การขยายความร่วมมือกับโรงพยาบาลรามาธิบดี เพิ่มทางเลือกและการเข้าถึงบริการทางสุขภาพ 17 แพกเกจ อาทิ แพกเกจผ่าตัดถุงน้ำดี ผ่าตัดมดลูก เต้านม ก้อนเนื้อที่รังไข่ ซ่อมแซมไส้เลื่อน ผ่าตัดริดสีดวงทวาร เปลี่ยนข้อเข่าเทียม ผ่าตัดก้อนหรือผิวหนัง เป็นต้น ซึ่งมีการส่งต่อคนไข้จากโครงการความร่วมมือเพิ่มขึ้นมากกว่า 50% ในไตรมาส 3 ที่ผ่านมา สร้างฐานลูกค้าที่ส่งต่อจากโรงพยาบาลรัฐเข้ามาเพิ่มขึ้น รวมถึงเร่งมือขยายการรองรับทยอยเพิ่มเตียงสำหรับผู้ป่วยใน เป้าหมายทั้งสิ้น 60 เตียงจนถึงต้นปีหน้า

BannGreenHaus

“นอกจากนี้ ด้วยความมุ่งมั่นสร้างสรรค์เพื่อส่งมอบการอยู่อาศัยที่ดี ควบคู่ไปกับการใส่ใจสังคมและสิ่งแวดล้อม จึงเป็นอีกหนึ่งความภาคภูมิใจที่ ‘พฤกษา โฮลดิ้ง’ ได้รับคัดเลือกจากตลาดหลักทรัพย์ให้อยู่ในรายชื่อ ‘หุ้นยั่งยืน’ โดยได้รับการคัดเลือกต่อเนื่องถึง 8 ปีซ้อน สะท้อนความใส่ใจด้านการให้ความสำคัญต่อการดำเนินธุรกิจตามกรอบแนวคิดการพัฒนาขององค์กรอย่างยั่งยืน ในเรื่องสิ่งแวดล้อม สังคม และธรรมาภิบาล (Environmental, Social, Governance: ESG) อย่างต่อเนื่อง มุ่งสร้างการเติบโตอย่างยั่งยืนในทุกมิติ” อุเทน กล่าวทิ้งท้าย