Friday, November 22, 2024
Latest:
News

ชไนเดอร์ อิเล็คทริค เปิดงาน Innovation Summit Bangkok 2023 เดินหน้าสนับสนุนทุกภาคส่วนสู่ความยั่งยืน

ชไนเดอร์ อิเล็คทริค ผู้นำระดับโลกด้านดิจิทัลทรานส์ฟอร์เมชั่น สำหรับการจัดการพลังงานและระบบออโตเมชั่น จัดงาน Innovation Summit Bangkok 2023: Innovations for a Sustainable Thailand งานเดียวที่ครบครันด้านเทคโนโลยีสำหรับการสร้างความยั่งยืน สำหรับองค์กรที่มีเป้าหมายไปสู่ความเป็น Carbon Neutral และ Net Zero พร้อมพบกับกรณีศึกษา และแนวคิดจากองค์กรชั้นนำระดับประเทศ กว่า 40 องค์กร ที่จะมาร่วมแชร์กลยุทธ์ในเส้นทางไปสู่ความยั่งยืน อีกทั้งยังเผยประเด็นสำคัญที่สนับสนุนเส้นทางเพื่อให้สามารถบรรลุเป้าหมายความยั่งยืน

สเตฟาน นูสส์ ประธานกลุ่มคลัสเตอร์ ดูแลประเทศไทย เมียนมา และลาว ชไนเดอร์ อิเล็คทริค กล่าวว่าการร่วมกันต่อสู้กับการเปลี่ยนแปลงด้านสภาพภูมิอากาศ (Climate Change) ทั่วโลก ด้วยการสร้างความยั่งยืน นับเป็นความท้าทายที่สำคัญสำหรับทุกธุรกิจในปัจจุบัน และเป็นความท้าทายที่ยิ่งใหญ่ต้องอาศัยความร่วมมือกันในทุกระดับและทุกองค์กร ซึ่งเทคโนโลยีดิจิทัลเป็นตัวแปรสำคัญ     ที่ผ่านมาชไนเดอร์ อิเล็คทริค เป็นที่ปรึกษาให้องค์กรไปสู่ความยั่งยืน ด้วยโซลูชันและบริการของชไนเดอร์ อิเล็คทริค ช่วยให้ลูกค้าทั่วโลกลดคาร์บอน ได้458 ล้านตัน คาร์บอนจากยอดขายGreen Solution 70%ในปี2022เรียกได้ว่า ช่วยให้องค์กรยั่งยืน และโลกยั่งยืนควบคู่กันไป

นอกจากนี้ในปี 2565 ชไนเดอร์ อิเล็คทริค ในประเทศไทย ยังได้ริเริ่มโครงการ Green Heroes for life ซึ่งเป็นโครงการด้านความยั่งยืน ที่มีเป้าหมายเพื่อช่วยผลักดันชุมชนของพลเมือง ธุรกิจ และสถาบันที่มีความใส่ใจต่อสิ่งแวดล้อม หวังให้ทุกองค์กรมาช่วยกัน มีแนวคิดร่วมกันในการไปสู่ Carbon Neutral และ Net Zero เพื่อต่อสู้กับปัญหาสภาพภูมิอากาศ

“วันนี้เรายังคงเชิญชวนองค์กรมาร่วมกันสร้างจุดยืนในการเดินทางไปสู่ความยั่งยืนร่วมกัน” สเตฟาน กล่าว

ในปี 2565  ชไนเดอร์ อิเล็คทริคมียอดขาย 34 พันล้านยูโร โดยมีรายได้จาก Green Solution 74% ช่วยกำจัดคาร์บอน 458 ล้านตันคาร์บอน  และทำงานร่วมกับลูกค้าทุกกลุ่มมากกว่า 5,000 บริษัท  ทั้งนี้บริษัทฯ ได้จัดสรรงบวิจัยและพัฒนา 5% ของยอดขายทั้งหมด เพื่อพัฒนาโซลูชันและผลิตภัณฑ์ ตอบโจทย์ความยั่งยืน

“ในปี 2025 (พ.ศ.2568) ชไนเดอร์ อิเล็คทริคมีเป้าหมายจะก้าวสู่ความเป็นกลางทางคาร์บอนของ Scope1และ2 และในปี 2030 (พ.ศ.2573)จะก้าวสู่ Net Zero” สเตฟาน กล่าว

สำหรับงานInnovation Summit Bangkok 2023 ถือเป็นงานสำคัญระดับโลกของชไนเดอร์ อิเล็คทริค ซึ่งจัดขึ้นระหว่างวันที่ 5 – 6 กรกฎาคม 2566 ณ ศูนย์ประชุมและนิทรรศการไบเทค บางนา เพื่อร่วมกันหาวิธีการแก้ไขปัญหาสภาพภูมิอากาศ และหาทางออกเพื่อไปสู่เป้าหมายความเป็นกลางทางคาร์บอน และ Net Zero โดยมีผู้เข้าร่วมงานจากทุกสาขาอาชีพกว่า 1,000 คน

ทั้งนี้ผู้เข้าร่วมงานจะได้สัมผัสกับนวัตกรรมดิจิทัลและนวัตกรรมเพื่อความยั่งยืนของชไนเดอร์ อิเล็คทริค รวมไปถึงการเรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับแนวทาง และแนวคิดในการสร้างความยั่งยืนขององค์กรระดับท็อปของประเทศ กว่า 40 องค์กร

สำหรับโซลูชันของชไนเดอร์ อิเล็คทริคที่ช่วยองค์กรทรานส์ฟอร์มสู่ความยั่งยืน ในงาน Innovation Summit Bangkok 2023 ประกอบด้วย เทคโนโลยีและนวัตกรรมเพื่อความยั่งยืน

  • Grids of the Future งานนี้ชไนเดอร์ฯ ได้เปิดตัวอย่างเป็นทางการกับนวัตกรรมพลิกโฉมไม่ปล่อยก๊าซเรือนกระจก RM AirSeT และSM AirSeT มาพร้อมเซ็นเซอร์อัจฉริยะแบบฝังตัว ช่วยให้สามารถมอนิเตอร์ข้อมูลและมีประสิทธิภาพในการควบคุม รวมถึงการตรวจสอบประสิทธิภาพของแอปพลิเคชัน การจ่ายไฟฟ้าแลช่วยให้สามารถบำรุงรักษาเชิงป้องกันและคาดการณ์การซ่อมบำรุงได้ ผู้ดูแลสามารถตรวจสอบการทำงานทั้งหมดได้จากระยะไกล ข้อมูลเชิงลึกจะถูกป้อนเข้าสู่เครื่องมือวิเคราะห์บนคลาวด์ที่มีประสิทธิภาพเพื่อดำเนินการที่ดีที่สุด 
  • Homes of the Future พบกับเทคโนโลยี Wiser โฮมออโตเมชั่น ที่ช่วยเปลี่ยนบ้านธรรมดาให้เป็นบ้านอัจฉริยะ พร้อมความสามารถในการควบคุมผ่านแอปพลิเคชั่น หรือทำให้เป็นอัตโนมัติก็ได้ เช่น การควบคุม ไฟ ม่าน แอร์ รดน้ำต้นไม้ การแจ้งเตือน น้ำท่วม น้ำรั่ว หรือมีผู้บุกรุกเข้ามาในบ้านเวลาที่ไม่อยู่ ล่าสุดในงานยังเปิดตัวระบบโฮมออโตเมชั่นและมาตรฐานแบบ KNX ซึ่งเป็นระบบเปิด ทำให้ผู้พัฒนา หรือผู้วางระบบ สามารถประยุกต์การใช้งานได้หลากหลายมากยิ่งขึ้น เติมเต็มความต้องการของผู้พักอาศัยได้ครบครัน
  • Buildings of the Future โซลูชันอาคารยุค 4.0 ด้วยเทคโนโลยี IoT (Internet Of Things) จากแพลตฟอร์ม EcoStruxure ของชไนเดอร์ อิเล็คทริค ช่วยในการบริหารจัดการอาคารที่มีความต้องการและคอนเซ็ปต์ที่แตกต่าง ด้วยโซลูชั่นที่ตอบโจทย์ได้อย่างครบวงจร อาทิ อาคารสำนักงาน ที่เน้นเรื่องการใช้งานและประหยัดพลังงานเป็นหลัก มีความยืดหยุ่น ให้ข้อมูลเชิงลึกและการวิเคราะห์พลังงาน เพิ่มประสิทธิภาพในการบริหารจัดการสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ ได้อย่างครบวงจรในหนึ่งเดียว ช่วยลดต้นทุนด้านการใช้พลังงาน

   ส่วนโรงแรม เน้นที่ความสะดวกสบายและประสบการณ์ที่ดีของแขกที่เข้ามาพัก ด้วยเทคโนโลยีดิจิทัลที่ใช้งานง่าย และยังช่วยเจ้าหน้าที่ ที่ได้รับการมอบหมายในการดูแลส่วนต่างๆ สามารถบูรณาการระบบการจัดการโรงแรม ห้องพัก และสิ่งอำนวยความสะดวกได้อย่างราบรื่น

 เฮลธ์แคร์ เน้นความปลอดภัยและความอุ่นใจของคนไข้ การแยกโซนผู้ป่วย และสิ่งอำนวยความสะดวกทางการแพทย์อื่นๆไม่ว่าจะเป็นห้องปฏิบัติการ ห้องผ่าตัด ห้องพักผู้ป่วย โซนไอโซเลชั่น ซึ่ง EcoStruxuture for Healthcare ช่วยให้ผู้ดูแลสามารถวิเคราะห์ และควบคุมในแต่ละโซน แต่ละห้องได้ตามความต้องการ

  • Data Centers of the Future โซลูชันสำหรับดาต้าเซ็นเตอร์ที่ยั่งยืน และเพิ่มประสิทธิภาพของดาต้าเซ็นเตอร์ พร้อมการเปิดตัวครั้งแรกกับ APC Micro Data Center R-Series โซลูชันไมโครดาต้าเซ็นเตอร์ที่ถูกออกแบบมาเพื่อการใช้งานในสภาพแวดล้อมที่สมบุกสมบัน เช่น โกดัง โรงงาน ไซต์งาน อุตสาหกรรมน้ำมัน อุตสาหกรรมเหมือง เป็นต้น มาพร้อมความโดดเด่นที่ต่างจากไมโครดาต้าเซ็นเตอร์ในสำนักงานทั่วไป โดยไม่ต้องการติดตั้งท่อน้ำยาแอร์ มีโครงสร้างแข็งแกร่งปิดสนิทอย่างแนบแน่น ป้องกันฝุ่น และความชื้น ใช้งานได้แม้ในพื้นที่ๆ มีความร้อนสูง ผสานระบบรักษาความปลอดภัยชั้นยอด
  • Industries of the Future พบกับโซลูชันครบครัน ที่จะปลดล็อคศักยภาพด้านพลังงาน และระบบออโตเมชั่น อย่างมีประสิทธิภาพ เพิ่มพลังให้กับกระบวนการทางอุตสาหกรรม ทั้งการยกระดับอาคารสำหรับอุตสาหกรรมและโครงสร้างพื้นฐาน

ในส่วนของโซลูชันไฮไลท์ในงาน ได้แก่ โซลูชันการสำหรับโรงงานผลิตสินค้าอุปโภค บริโภค โซลูชันการบริหารจัดการน้ำ ที่ช่วยในเรื่องการจัดการน้ำตั้งแต่ระดับโรงงาน ไปจนถึงเมืองได้ ภายในงานยังได้โชว์ประสิทธิภาพของ Lexium™ MC12 Multi Carrier ระบบการลำเลียงในสายการผลิต ที่มุ่งแก้ Pain Point สำหรับอุตสาหกรรมการผลิต มีจุดเด่นด้านการติดตั้งและการออกแบบได้อย่างรวดเร็ว มาพร้อมซอฟต์แวร์ที่ช่วยให้สามารถออกแบบและจำลองกระบวนการได้ล่วงหน้า ช่วยให้สามารถออกแบบสายการผลิตได้หลากหลายตามความต้องการ

 Services of the Future ในงานได้มีการเปิดตัวElectrical Digital Twin Service (EDTS) ยกระดับผังวงจรของระบบไฟฟ้าทั้งโรงงาน อาคาร หรือไซต์งาน ให้เป็นดิจิทัล ง่ายต่อการดูแล และอัปเดตอุปกรณ์ต่างๆ ทำให้ง่ายต่อการปรับปรุงความปลอดภัย ประสิทธิภาพ และการดำเนินงาน ทั้งยังลดค่าใช้จ่ายในการสร้างแบบจำลองที่มีราคาแพง ประหยัดเวลาในการการรวบรวมข้อมูลใหม่ที่ใช้เวลานาน นอกจากนี้ EDTS ยังใช้งานง่ายในการทดสอบความต้องการพลังงานในอนาคตอีกด้วย และยังมีบริการอื่นๆ อีกอาทิ EcoStruxure Transformer Expert (ETE) ระบบตรวจสอบ และการมอนิเตอร์หม้อแปลงไฟฟ้า EcoStruxure Service Plans (ESP) มิติใหม่แห่งการบำรุงรักษาระบบไฟฟ้าด้วยบริการดิจิทัลตลอดอายุสัญญา ที่ให้บริการครอบคลุมถึงระบบ IoT (Internet of Things) ของชไนเดอร์ อิเล็คทริค พร้อมทั้งจัดหาอุปกรณ์ และปรับปรุงอุปกรณ์ที่ลูกค้ามีอยู่ โดยนำเทคโนโลยีดิจิทัลเข้ามาช่วยในการทรานส์ฟอร์มระบบไฟฟ้ารูปแบบใหม่ด้วยซอฟต์แวร์ ระบบวิเคราะห์ และอุปกรณ์เชื่อมต่อกับดิจิทัล

 EV Charger อุปกรณ์และระบบสำหรับเครื่องชาร์จรถไฟฟ้าสำหรับอาคารและสถานีชาร์จ ได้แก่ EVlink Pro AC แบบใช้ไฟฟ้า 3 เฟส ให้พลังในการชาร์จ 7.4 kW, 11 kW, 22 kW, และ EVlink Pro DC โฟกัสการทำสถานีเป็นหลัก ตัวเครื่องทนทางใช้งานในสถานที่เปิดได้อย่างดี สามารถรองรับการชาร์จได้รวดเร็ว ตั้งแต่ 120 – 180 kW สามารถใช้งานพร้อมกันได้ถึง 2 หัวจ่ายต่อเครื่อง มาพร้อม โซลูชัน EV Charging Expert ช่วยในเรื่องการบริหารจัดการโหลดพลังงานทั้งหมดให้เพียงพอในการชาร์จ และไม่ส่งผลกระทบต่อการใช้งานพลังงานในส่วนอื่น เช่นอาคาร หรืออุปกรณ์ชาร์จตัวอื่นๆ  และ EV Advisor ช่วยในการมอนิเตอร์สถานะของเครื่องชาร์จทั้งหมด พร้อมวิเคราะห์ปัญหา เรียกได้ว่าโซลูชัน EV Charger ของชไนเดอร์ อิเล็คทริคครบทั้งโซลูชันในการติดตั้ง ครอบคลุมทั้งอาคาร หรือสถานีชาร์จ

นอกจากนี้ ยังมี EV Charger สำหรับบ้าน ซึ่งเป็นอีกหนึ่งโซลูชันการชาร์จ สำหรับผู้ที่สนใจรถไฟฟ้า ด้วยความโดดเด่นที่ง่ายในการติดตั้ง รูปทรงทันสมัย และให้ความปลอดภัยอีกด้วย

งาน Innovation Summit Bangkok 2023 จัดขึ้นในวันที่ 5- 6 กรกฎาคม 2566 Grand Hall ชั้น 2 ศูนย์นิทรรศการและการประชุมไบเทค บางนา