Sunday, November 24, 2024
Latest:
News

สีจระเข้ เปิดตัว “Flagship Store”ให้ลูกค้า – นักออกแบบค้นหาไอเดียใหม่ๆ ด้านงานสีครบวงจร

สีจระเข้ (SEE JORAKAY) แบรนด์สีทาบ้านรายแรกที่เลือกใช้วัตถุดิบในการผลิตที่มาจากหินปูนธรรมชาติ 100% ปลอดภัย ภายใต้บริษัท จระเข้ คอร์ปอเรชั่น จำกัด เปิดตัว SEE JORAKAY Flagship Store” แฟลกชิปสโตร์แห่งใหม่ในย่านทำเลศักยภาพกรุงเทพกรีฑา เพื่อเป็นสถานที่สำหรับลูกค้าและนักออกแบบได้มาหาไอเดียใหม่ๆ เรื่องงานสีครบวงจร

โดยมีโซนให้ทดสอบสินค้าจริง โซนสำหรับนั่งทำงาน จิบกาแฟ พร้อมบริการแนะนำสินค้า เลือกสี และออกแบบลายโดยช่างผู้เชี่ยวชาญ ใน 4 กลุ่มสินค้า ได้แก่ Natural Color, Art Color, Texture Color และ Heritage Color

พงษ์พันธุ์ ประทีปมโนวงศ์ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ สายงานการตลาด บริษัท จระเข้ คอร์ปอเรชั่น จำกัด กล่าวว่า SEE JORAKAY เป็นสีทาบ้านรายแรกที่เลือกใช้วัตถุดิบในการผลิตที่มาจากหินปูนธรรมชาติ 100% เป็นธรรมชาติ มีความปลอดภัยสูง ไร้กลิ่นฉุน ไม่เป็นอันตรายต่อผู้อยู่อาศัยและสิ่งแวดล้อม ได้เปิดตัวครั้งแรกในงานสถาปนิก’65 ที่ผ่านมาและได้รับการตอบรับที่ดี มีลูกค้าสนใจติดต่อสอบถามเข้ามายังช่องทางออนไลน์จำนวนมาก ทำให้ทางบริษัทฯ เกิดแนวคิดในการที่จะสร้าง “Flagship Store” แห่งใหม่ในย่านทำเลศักยภาพกรุงเทพกรีฑาขึ้น เพื่อเป็นสถานที่สำหรับลูกค้าและนักออกแบบได้มาหาไอเดียใหม่ๆเรื่องงานสีครบวงจร รวมทั้งได้มีโอกาสพูดคุยแลกเปลี่ยนข้อมูลเรื่องสีกับช่างผู้เชี่ยวชาญของบริษัทฯที่จะคอยพูดคุยให้คำแนะนำ สร้างแรงบันดาลใจการออกแบบสีสำหรับทาห้องในบ้านแต่ละห้อง บริเวณโซนสำหรับนั่งทำงาน จิบกาแฟ รวมทั้งมีโซนที่สามารถทดลองใช้สินค้าสีจริงของทางบริษัทฯ ด้วย

สำหรับประเภทผลิตภัณฑ์สีจระเข้ มี 4 กลุ่ม ได้แก่  1.Natural Color เป็นสีที่มีจุดเด่นที่เลือกใช้วัตถุดิบจากธรรมชาติผสานกับเทคโนโลยีกราฟีนที่ช่วยเพิ่มแรงยึดเกาะ ดูดซับคาร์บอนไดออกไซด์ในเวลาแห้งตัว มีจุดเด่นที่ไม่มีกลิ่นฉุน และปราศจากสารก่อมะเร็งที่เป็นอันตรายต่อสุขภาพ มีให้เลือกทั้งหมด 3 แบบ ประกอบด้วย สีจระเข้ ไบโอสเฟียร์ พรีเมียม เป็นสีทาภายนอก ผิวด้าน,สีจระเข้ อีโคสเฟียร์ พรีเมียม เป็นสีทาภายใน ผิวด้าน และสีจระเข้ กราฟคลีน พรีเมียม เป็นสีอะคริลิคทาภายในและภายนอก กึ่งด้าน 2.Art Color เป็นสีที่ใช้สำหรับสร้างลวดลายตามความต้องการ ช่วยสร้างเอกลักษณ์เฉพาะให้กับผนังบ้าน โดยใช้อุปกรณ์สร้างลวดลายได้หลากหลาย เช่น ลูกกลิ้ง เกรียง โดยมาพร้อมเทคโนโลยี Microban ช่วยยับยั้งการเกิดราดำและตะไคร่น้ำ มีให้เลือกทั้งหมด 2 แบบ ประกอบด้วย สีจระเข้ คัลเลอร์ซีเมนต์ เป็นสีที่ผลิตจากซีเมนต์คุณภาพสูงสำหรับสร้างพื้นผิวสไตล์ลอฟท์ ผิวด้าน ใช้ได้ทั้งภายนอกและภายในและสีจระเข้ สตุคกี้ พรีเมียม เป็นสี Lime Base จากหินปูนธรรมชาติ ใช้สำหรับฉาบภายใน และภายนอกโดยให้พื้นผิวเงามันดุจหินอ่อน 3.Texture Color เป็นสีที่ผลิตจากมอร์ต้าชนิดพิเศษ และมีเทคโนโลยี 3D Texture ใช้สำหรับสร้างพื้นผิวที่มีมิติได้อย่างเป็นธรรมชาติ มีจุดเด่นที่ความแข็งแกร่งทนต่อรังสี UV ทนต่อไอเกลือทะเลใช้งานได้ยาวนานกว่า 15 ปี สามารถใช้สร้างลวดลายได้หลากหลายวิธี และ4. Heritage Color เป็นสีที่ใช้สำหรับบูรณะ หรือซ่อมแซมโบราณสถานโดยเฉพาะ โดยผลิตจาก Lime Base ซึ่งเป็นหินปูนธรรมชาติ ระบายความชื้นได้ดี ลดปัญหาการหลุดล่อน ช่วยรักษาวัสดุเดิมให้คงสภาพ ไม่ทำลายโครงสร้างหรือพื้นผิวเดิม เหมาะสำหรับงานอนุรักษ์โบราณสถาน

โดยสีที่มียอดขายดีจะเป็นสีกลุ่ม Natural Color และ Art Color คิดเป็นกว่า 60% ของรายได้ผลิตภัณฑ์สีทั้งหมด

พงษ์พันธุ์ กล่าวว่า ในส่วนของกลุ่มลูกค้าเป้าหมายจะเป็นกลุ่มผลิตภัณฑ์สำหรับตกแต่งพื้นผิวที่มีประสิทธิภาพแตกต่างระดับกลางถึงสูง และเน้นลูกค้าเฉพาะกลุ่ม โดยวางเป้าผู้ใช้สินค้าระดับกลุ่ม B+ เป็นกลุ่มโครงการที่อยู่อาศัยในสัดส่วนประมาณ 70-80% และลูกค้าเจ้าของบ้านประมาณ 20-30% ที่ต้องการทาสีบ้านที่มีสีเฉพาะเจาะจง โดยเฉพาะกลุ่มคนรุ่นใหม่ที่ชอบความแตกต่างเรื่องสีสันสำหรับทาสีในแต่ละห้องที่ต้องการใช้งาน เช่น ห้องนอน ห้องนั่งเล่น ห้องครัวและอื่นๆ เพื่อให้ได้บรรยากาศในการใช้ห้องที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว

สำหรับภาพรวมตลาดอุตสาหกรรมสีในปี 2565 คาดว่ามีมูลค่าประมาณกว่า 10,000 ล้านบาท และมีผู้ประกอบการรายใหญ่ๆ หลายรายเป็นเจ้าของตลาดอยู่ ทั้งนี้บริษัทฯ จะไม่ไปแข่งกับผู้ประกอบการรายใหญ่ แต่จะเน้นทำตลาดสีพรีเมียมแบบเฉพาะเจาะจงมากกว่า โดยตั้งเป้าว่าอีกประมาณ 3-5 ปี ผลิตภัณฑ์สีของบริษัทฯ จะสร้างยอดขายเพิ่มเป็น 10% ของยอดขายรวมทั้งกลุ่ม

พงษ์พันธุ์ กล่าวว่า จากสถานการณ์ COVID-19 และสถานการณ์พลังงานที่ปรับตัวสูงขึ้น ซึ่งมีผลกระทบต่อแผนการตลาดในการเปิดตัวผลิตภัณฑ์รวมทั้งการวางแผนขยายตลาดสู่พื้นที่อื่นๆ นอกเหนือจากกลุ่มลูกค้าในพื้นที่กรุงเทพมหานครและปริมณฑล แต่บริษัทฯ คาดว่าหลังจากสถานการณ์ต่างๆ คลี่คลายจะสามารถดำเนินการตามแผนการขยายฐานลูกค้าเปิดโอกาสให้ลูกค้าได้รู้จักและทดลองใช้มาใช้ผลิตภัณฑ์สีของบริษัทฯ มากขึ้น โดยเฉพาะในพื้นที่ภาคตะวันออก เช่น จังหวัดชลบุรี ที่มีศักยภาพและกำลังเป็นพื้นที่ลงทุนโครงการเขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก (EEC) ของภาครัฐและเอกชน โดยคาดว่าภายในปี พ.ศ. 2566 บริษัทฯ จะมีแผนการขยายตลาดไปยัง EEC ชัดเจนมากยิ่งขึ้น

ชินธร อรรถสารประสิทธิ์ ผู้จัดการส่วนผลิตภัณฑ์ สีจระเข้ บริษัท จระเข้ คอร์ปอเรชั่น จำกัด กล่าวว่า ปัจจุบัน แนวคิดเรื่องการรักษาสิ่งแวดล้อมถูกเพิ่มเข้ามาในการออกแบบบ้านและอาคาร การใช้วัสดุในการก่อสร้างที่ไม่มีผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม และเป็นมิตรต่อผู้อยู่อาศัย ซึ่งเป็นประเด็นหลักที่ทุกคนให้ความสำคัญ ดังนั้นสีจระเข้จึงเน้นทำการตลาดเฉพาะกลุ่ม ซึ่งเป็นความท้าทายมาก

“กว่าที่จะสร้างสรรค์สี ใส่นวัตกรรมลงไปในตัวเนื้อสีให้กลุ่มลูกค้ากลุ่มผู้บริโภคยอมรับต้องใช้เวลาทดลองกว่า 2 ปี จนปัจจุบันนับว่าการทำงานที่ผ่านมาประสบความสำเร็จไปแล้วก้าวหนึ่งและต้องรักษามาตรฐานและพัฒนาสีต่อไปอีก ให้สีจระเข้มีจุดเด่นเพิ่มขึ้น สามารถตอบโจทย์ทุกความต้องการ ด้วยการผลิตสีที่มาจากวัสดุธรรมชาติ ปลอดภัย และตอบรับทุกแรงบันดาลใจในการดีไซน์ได้เสมือนจริงดุจการจำลองลวดลายธรรมชาติมาไว้ในการก่อสร้าง มีทีมช่างที่ชำนาญงานเป็นทีมสนับสนุนในการทำตลาดธุรกิจสีทาบ้าน มีบริการงานทาสี “SEE JORAKAY Service Team” ให้บริการฉาบสี พ่นสี ตกแต่งผนังโดยช่างผู้ชำนาญการใช้สีสร้างลาย ที่ผ่านการอบรมและได้รับการรับรองจาก SEE JORAKAY สร้างความมั่นใจให้กับกลุ่มลูกค้าที่สนใจผลิตภัณฑ์สีของบริษัทฯ” ชินธร กล่าว

นอกจากนี้บริษัทฯ ได้จับมือกับผู้นำสีใน “ประเทศสเปน” เปิดตลาดสีธรรมชาติจาก Limebase เป็นรายแรกในประเทศไทย ด้วยความโดดเด่นของ Graphenstone ที่มีกระบวนการที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมสูง สอดคล้องกับนโยบายของบริษัทฯ ในการนำเสนอสินค้านวัตกรรม และมีจุดเด่นที่ชัดเจนสู่กลุ่มผู้บริโภคซึ่งได้รับการตอบรับจากตลาดเป็นอย่างดี