Friday, November 22, 2024
Latest:
News

ครม.รับทราบผลการดำเนินงานของ รฟม.ในปีงบประมาณ 2564

การประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) เมื่อวันที่ 5 เมษายน พ.ศ.2565  ที่มีพล..ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เป็นประธานการประชุมคณะรัฐมนตรี ณ ตึกสันติไมตรี (หลังนอก) ทำเนียบรัฐบาล โดย ครม.รับทราบตามที่กระทรวงคมนาคม (คค.) เสนอ ผลการดำเนินงานของการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) ในปีงบประมาณ พ.ศ. 2564 นโยบายของคณะกรรมการการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทยและโครงการและแผนงานของ รฟม. ในอนาคต (เป็นการดำเนินการตามพระราชบัญญัติ รฟม. พ.ศ. 2543 มาตรา 73 ที่บัญญัติให้ รฟม. ทำรายงานปีละครั้งเสนอคณะรัฐมนตรี รายงานนี้ให้กล่าวถึงผลของงานในปีที่ล่วงมาแล้วและคำชี้แจงเกี่ยวกับนโยบายของคณะกรรมการฯ โครงการและแผนงานที่จะทำในภายหน้า) สรุปสาระสำคัญได้ ดังนี้

1. ผลการดำเนินงานในปีงบประมาณ พ.ศ.2564 (ณ วันที่ 30 กันยายน 2564)

1.1 ด้านการพัฒนาระบบรถไฟฟ้าขนส่งมวลชน มีผลการดำเนินการดังนี้

โครงการที่อยู่ระหว่างการก่อสร้าง (3 โครงการ)

1)โครงการรถไฟฟ้าสายสีส้ม ช่วงศูนย์วัฒนธรรมแห่งประเทศไทย – มีนบุรี (สุวินทวงศ์) ผลการดำเนินงานและความก้าวหน้า งานศึกษาและวิเคราะห์โครงการตามพระราชบัญญัติการร่วมลงทุนระหว่างรัฐและเอกชน พ.ศ. 2562 แล้วเสร็จ งานก่อสร้างงานโยธา ผลิตและติดตั้งงานระบบรถไฟฟ้าและงานเดินรถมีความก้าวหน้า 89.70% (เร็วกว่าแผน 0.44%) และคาดว่าจะเปิดให้บริการในเดือนมีนาคม พ.ศ.2568

2) โครงการรถไฟฟ้าสายสีชมพู ช่วงแคราย – มีนบุรี ผลการดำเนินงานและความก้าวหน้า : งานก่อสร้างงานโยธา ผลิตและติดตั้งงานระบบรถไฟฟ้าและงานเดินรถมีความก้าวหน้า 90.70% (เร็วกว่าแผน 1.74%) และคาดว่าจะเปิดให้บริการในเดือนกันยายน พ.ศ.2565

3) โครงการรถไฟฟ้าสายสีเหลือง ช่วงลาดพร้าว – สำโรง ผลการดำเนินงานและความก้าวหน้า : งานก่อสร้างงานโยธา ผลิตและติดตั้งงานระบบรถไฟฟ้าและงานเดินรถมีความก้าวหน้า 84.90% (เร็วกว่าแผน 4.19%) และคาดว่าจะเปิดให้บริการในเดือนมิถุนายน พ.ศ.2565

โครงการที่อยู่ระหว่างการประกวดราคา (2 โครงการ)

1) รถไฟฟ้าสายสีม่วง ช่วงเตาปูน – ราษฎร์บูรณะ (วงแหวนกาญจนาภิเษก) ผลการดำเนินงานและความก้าวหน้า : งานจัดกรรมสิทธิ์ที่ดินมีความก้าวหน้า 37.75% (ตามแผน)งานก่อสร้างงานโยธา ผลิตและติดตั้งงานระบบรถไฟฟ้าและงานเดินรถมีความก้าวหน้า 9.10% (ล่าช้ากว่าแผน 0.73%) เนื่องจาก รฟม. ได้มีประกาศยกเลิกประกวดราคางานโยธาเพื่อให้เกิดการมีส่วนร่วมของประชาชนมากขึ้น และคาดว่าจะเปิดให้บริการในเดือนธันวาคม พ.ศ.2570

2) รถไฟฟ้าสายสีส้ม ช่วงบางขุนนนท์-ศูนย์วัฒนธรรมแห่งประเทศไทย ผลการดำเนินงานและความก้าวหน้า : งานจัดกรรมสิทธิ์ที่ดินมีความก้าวหน้า 17.80% (ล่าช้ากว่าแผน 0.20%) งานก่อสร้างงานโยธา ผลิตและติดตั้งงานระบบรถไฟฟ้าและงานเดินรถมีความก้าวหน้า 5% (ตามแผน) คาดว่าจะเปิดให้บริการในเดือนกันยายน พ.ศ.2570

โครงการที่อยู่ระหว่างการศึกษาและวิเคราะห์โครงการ 4 โครงการ

1) โครงการรถไฟฟ้า จังหวัดภูเก็ตผลการดำเนินงานและความก้าวหน้า : เสนอขอความเห็นชอบรูปแบบการลงทุนฯ มีความก้าวหน้า 20% (ตามแผน) คาดว่าจะเปิดให้บริการในเดือนธันวาคม พ.ศ.2569

2) โครงการรถไฟฟ้า จังหวัดเชียงใหม่ ผลการดำเนินงานและความก้าวหน้า : เสนอขอความเห็นชอบรูปแบบการลงทุนฯ มีความก้าวหน้า 24% (ตามแผน) โดยจากการศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมพบว่าในระยะเริ่มต้นควรดำเนินการเฉพาะสายสีแดงเพียงเส้นทางเดียว และเห็นควรให้ระบบเทคโนโลยีรถไฟฟ้าทั้ง 3 ทางเลือก (จากการประสานข้อมูลเพิ่มเติมเมื่อวันที่ 23 มีนาคม พ.ศ.2565 ได้รับแจ้งว่า ทางเลือกของระบบขนส่งมวลชนภูมิภาคที่นำมาพิจารณาสำหรับรถไฟฟ้าจังหวัดเชียงใหม่ ได้แก่ 1) รถไฟฟ้ารางเบาแบบล้อเหล็ก 2) รถไฟฟ้ารางเบาแบบล้อยาง และ 3) รถไฟรางเบาแบบล้อยางชนิดรางเสมือน ยังคงเป็นทางเลือกที่เหมาะสมสำหรับโครงการฯและคาดว่าจะเปิดให้บริการในเดือนกุมภาพันธ์ พ.ศ.2571

3) โครงการรถไฟฟ้า จังหวัดนครราชสีมา ผลการดำเนินงานและความก้าวหน้า : เสนอขอความเห็นชอบรูปแบบการลงทุนฯ มีความก้าวหน้า 20% (ตามแผน) โดยจากการศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมพบว่าในระยะเริ่มต้นควรดำเนินการเฉพาะสายสีเขียวเพียงเส้นทางเดียว และเห็นควรให้ระบบเทคโนโลยีรถไฟฟ้าทั้ง 4 ทางเลือก (จากการประสานข้อมูลเพิ่มเติมเมื่อวันที่ 23 มีนาคม พ.ศ.2565 ได้รับแจ้งว่า ทางเลือกของระบบขนส่งมวลชนภูมิภาคที่นำมาพิจารณาสำหรับรถไฟฟ้าจังหวัดนครราชสีมา ได้แก่ (1) รถไฟฟ้ารางเบาแบบล้อเหล็ก (2) รถไฟฟ้ารางเบาแบบล้อยาง (3) รถไฟรางเบาแบบล้อยางชนิดรางเสมือน และ (4) รถโดยสารประจำทางไฟฟ้าด่วนพิเศษ) ยังคงเป็นทางเลือกที่เหมาะสมสำหรับโครงการฯ และคาดว่าจะเปิดให้บริการในเดือนกุมภาพันธ์ พ.ศ.2571

4) โครงการรถไฟฟ้า จังหวัดพิษณุโลก ผลการดำเนินงานและความก้าวหน้า : จัดทำร่างขอบเขตของงาน (TOR) และร่างราคากลางงานจัดจ้างที่ปรึกษาแล้วเสร็จ และคาดว่าจะเปิดให้บริการในเดือนกรกฎาคม พ.ศ.2571

นอกจากนี้ ยังมีผลการดำเนินการอื่น ๆ เช่น 1) โครงการรถไฟฟ้าสายสีน้ำตาล ช่วงแคราย – ลำสาลี อยู่ระหว่างการพิจารณาเอกสารเชิญชวนเพื่อคัดเลือกที่ปรึกษาและศึกษาทบทวนและปรับปรุงรายละเอียดความเหมาะสม รวมทั้งจัดทำรายงานการศึกษาและวิเคราะห์โครงการร่วมทุนระหว่างรัฐและเอกชน โดยคาดว่าจะเปิดให้บริการในเดือนสิงหาคม 2570 (2) การก่อสร้างสิ่งอำนวยความสะดวกเพื่อเชื่อมต่อการเดินทางบริเวณสถานีสะพานพระนั่งเกล้ากับท่าเรือพระนั่งเกล้า ดำเนินการแล้วเสร็จ โดยปัจจุบันอยู่ระหว่างการนำเทคโนโลยี EMV Contactless3 (Europay, Mastercard, Visa) มาใช้กับระบบตั๋วร่วม โดยคาดว่าจะสามารถเปิดให้บริการระบบตั๋วร่วม EMV Contactless อย่างเป็นทางการในสายเฉลิมรัชมงคลและสายฉลองรัชธรรม ในปีงบประมาณ พ.ศ.2565

1.2 ด้านการให้บริการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชน เปิดให้บริการแล้ว 2 เส้นทาง มีผลการดำเนินงานดังนี้

1) รถไฟฟ้ามหานคร สายเฉลิมรัชมงคล มีผู้โดยสารเฉลี่ย 176,413 คนต่อวัน ลดลง 37.87% ความพึงพอใจของผู้ใช้บริการ 85.92% (เป้าหมาย 84.00%)

2) รถไฟฟ้ามหานครสายฉลองรัชธรรม มีผู้โดยสารเฉลี่ย 32,752 คนต่อวัน ลดลง 28.98% ความพึงพอใจของผู้ใช้บริการ 87.11% (เป้าหมาย 79.50%)

1.3 ด้านการเงิน รฟม. มีผลประกอบการกำไรสุทธิ 1,927.83 ล้านบาท โดยมีรายได้ 16,018.27 ล้านบาท (เงินอุดหนุน 10,434.78 ล้านบาท) และค่าใช้จ่ายรวม 14,090.44 ล้านบาท สามารถเบิกจ่ายงบลงทุนได้ 99.99% [คณะรัฐมนตรีมีมติ (29 กันยายน พ.ศ.2563) เห็นชอบการกำหนดให้รัฐวิสาหกิจเบิกจ่ายลงทุนไม่น้อยกว่า 95% ของวงเงินอนุมัติให้เบิกจ่ายลงทุน] นอกจากนี้ ยังมีรายได้จากธุรกิจต่อเนื่องจากรถไฟฟ้ามหานครสายเฉลิมรัชมงคล 104.16 ล้านบาท (รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม) ต่ำกว่าเป้าหมาย 33.48 ล้านบาท และสายฉลองรัชธรรม 24.26 ล้านบาท (รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม) ต่ำกว่าเป้าหมาย 6.73 ล้านบาท ผลตอบแทนต่อสินทรัพย์ 1.20% (เป้าหมาย 0.85%) รวมทั้งได้จัดทำรายงานการศึกษาโครงสร้างงบกำไรขาดทุนของ รฟม. เสร็จเรียบร้อยแล้ว

1.4 ด้านการพัฒนาองค์กรและทรัพยากรบุคคล รฟม. ได้ดำเนินการตามแผนพัฒนาทรัพยากรบุคคล โดยพนักงาน 96.90% มีสมรรถนะตามมาตรฐานที่องค์กรกำหนด (เป้าหมาย 96.25%) และมีระดับความผูกพันเท่ากับ 4.23 (เป้าหมายเท่ากับ 4.16) นอกจากนี้ ได้มีการดำเนินงานตามแผนต่าง ๆ เช่น การพัฒนาระบบการสร้างความสัมพันธ์และบริหารความสัมพันธ์กับลูกค้าและการดำเนินการตามแผนพัฒนาองค์ความรู้ด้านการบริหารก่อสร้าง การบริหารโครงการ และการจัดซื้อจัดจ้าง

1.5 ด้านการกำกับดูแลที่ดี รฟม. ได้ดำเนินการตามแนวปฏิบัติในการแสดงความมุ่งมั่นต่อการปฏิบัติตามกฎหมายและมีจริยธรรมของผู้นำระดับสูง เช่น การแสดงรายการรับของขวัญ ของที่ระลึก หรือประโยชน์อื่นใด ตามกรอบเวลาที่กำหนด ทั้งนี้ในปี พ.ศ.2564 รฟม. มีผลประเมินคุณธรรมและความโปร่งใสการดำเนินงานของหน่วยงานภาครัฐ (Integrity and Transparency Assessment: ITA) อยู่ในลำดับที่ 8 ของรัฐวิสาหกิจสังกัด คค. เท่ากับ 86.52 คะแนน (ปี 2563 เท่ากับ 88.01 คะแนน)

2. นโยบายของคณะกรรมการฯ เพื่อใช้เป็นแนวทางการปฏิบัติงานและกำกับดูแลการดำเนินงาน เช่น ให้บริการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนด้วยความสะดวก รวดเร็ว ปลอดภัย ตรงเวลา ประหยัด โดยคำนึงถึงความพึงพอใจของผู้ใช้บริการแต่ละกลุ่ม เร่งรัดดำเนินโครงการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนสายต่าง ๆ ให้แล้วเสร็จและเปิดบริการได้ตามแผนงาน ศึกษาระบบรถไฟฟ้าในเมืองหลักอื่น ให้ประชาชนมีส่วนร่วมในการดำเนินงานและใช้เทคโนโลยีและนวัตกรรมในการพัฒนากระบวนการทำงานภายในองค์กร รวมทั้งการสื่อสารเชิงรุกในรูปแบบต่าง ๆ กับผู้ใช้บริการผู้ได้รับผลกระทบ และกลุ่มผู้มีส่วนได้ส่วนเสียที่สำคัญ เพื่อให้ได้รับรู้และเข้าใจถึงความสำคัญของรถไฟฟ้าขนส่งมวลชน

3. โครงการและแผนงานของ รฟม. ในอนาคต

3.1 ด้านการพัฒนาระบบรถไฟฟ้าขนส่งมวลชน รฟม. มีโครงการอยู่ระหว่างการก่อสร้าง 3 โครงการ อยู่ระหว่างการประกวดราคา 2 โครงการ และอยู่ระหว่างศึกษาและวิเคราะห์โครงการซึ่งคาดว่าจะได้รับอนุมัติจากคณะรัฐมนตรีในปี พ.ศ.2567 – 2568 จำนวน 5 โครงการ โดยมีเป้าหมายว่าการดำเนินงานจะต้องมีความสำเร็จตามแผนและประชาชน 90% ต้องมีความพึงพอใจในระดับมาก – มากที่สุดต่อมาตรการลดผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อมและจราจรจากการก่อสร้างโครงการรถไฟฟ้าฯ นอกจากนี้ได้มีการเตรียมความพร้อมสำหรับการใช้ระบบตั๋วร่วม โดยจะสามารถเปิดให้บริการระบบตั๋วร่วม EMV contactless ในรถไฟฟ้าสายเฉลิมรัชมงคลและสายฉลองรัชธรรมอย่างเป็นทางการได้ภายในปี พ.ศ.2565

3.2 ด้านการให้บริการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชน รฟม. มีแผนที่จะพัฒนาการให้บริการเพื่อตอบสนองความต้องการของผู้ใช้บริการ โดยมีเป้าหมายความพึงพอใจของผู้ใช้บริการรถไฟฟ้าและบริการเสริมอื่น ๆ ในระดับมาก – มากที่สุดและการเพิ่มขึ้นของจำนวนผู้ใช้บริการรถไฟฟ้าดังนี้

1) สายเฉลิมรัชมงคล เป้าหมายความพึงพอใจฯ ในปี พ.. 256587% เป้าหมายการเพิ่มขึ้นของจำนวนผู้โดยสาร 5% ต่อปี

2) สายฉลองรัชธรรม เป้าหมายความพึงพอใจฯ ในปี พ.. 2565 88% เป้าหมายการเพิ่มขึ้นของจำนวนผู้โดยสาร 7% ต่อปี

3.3 ด้านการเงิน รฟม. มีแผนที่จะหารายได้จากธุรกิจต่อเนื่อง 134.84 ล้านบาท (สายเฉลิมรัชมงคล 109.37 ล้านบาท และสายฉลองรัชธรรม 25.47 ล้านบาท) และมีผลตอบแทนต่อสินทรัพย์ 1.02% นอกจากนี้มีแผนจะบริหารจัดการต้นทุนทางการเงินเพื่อลดค่าใช้จ่าย โดยต้องควบคุมค่าใช้จ่ายไม่ให้สูงกว่าปีที่ผ่านมา

3.4 ด้านการพัฒนาองค์กรและทรัพยากรบุคคล รฟม. มีแผนจะพัฒนาบุคลากร โดยบุคลากร 96.61% ต้องผ่านเกณฑ์การประเมินสมรรถนะ และบุคลากรมีความผูกพันที่ระดับ 4.25 มีแผนจะพัฒนากระบวนการทำงานที่สำคัญที่เกี่ยวข้องกับระบบเทคโนโลยีสารสนเทศ รวมทั้งแผนพัฒนาองค์ความรู้ด้านการบริหาร งานก่อสร้าง การบริหารโครงการ การจัดซื้อจัดจ้าง การจัดกรรมสิทธิ์ที่ดิน แผนการจัดการความรู้ ด้านการเดินรถไฟฟ้า และแผนการฝึกอบรมบุคลากรระบบราง

3.5 ด้านการกำกับดูแลที่ดี รฟม. มีแผนจะพัฒนาและส่งเสริมธรรมาภิบาลองค์กรใน 4 มิติ ได้แก่ (1) การมีส่วนร่วม (2) ส่งเสริมการสื่อสารธรรมาภิบาล (3) สร้างมาตรฐานการดำเนินงานด้านการกำกับดูแลที่ดี และ (4) ประเมินประสิทธิภาพการดำเนินงานและพัฒนาแนวทางการประเมินประสิทธิภาพการดำเนินงานในด้านการกำกับดูแลที่ดีโดยมีเป้าหมายในการประเมิน ITA อยู่ที่ 92%

4. ความเห็นของ คค.

4.1 สถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อ COVID-19 ส่งผลให้มีปริมาณผู้โดยสารทุกสายทางลดลง อย่างไรก็ตาม รฟม. ยังคงมีผลการดำเนินงานด้านการเงินที่มีกำไรเติบโตขึ้นอย่างแข็งแกร่ง รวมทั้งสามารถผลักดันการก่อสร้างจนมีโครงการรถไฟฟ้าที่มีกำหนดเปิดให้บริการได้ในปี พ.ศ.2565 จำนวน 2 โครงการ คือโครงการรถไฟฟ้าสายสีชมพูและสายสีเหลือง รวมทั้งมีการนำเทคโนโลยีสมัยใหม่มาใช้ในการให้บริการ เช่น ระบบที่จอดรถด้วยหุ่นยนต์

4.2 เพื่อให้การดำเนินการของ รฟม. เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพและเป็นไปตามนโยบายของรัฐบาล คค. ได้มอบหมายให้ รฟม. ดำเนินการ เช่น

4.2.1 ด้านการพัฒนาระบบรถไฟฟ้าขนส่งมวลชน เช่น ให้เร่งก่อสร้างโครงการที่อยู่ระหว่างการก่อสร้างให้เป็นไปตามแผนงานและให้ควบคุมการก่อสร้างไม่ให้เกิดฝุ่นละอองขนาดเล็ก (PM 2.5) ตามมาตรการที่กำหนดไว้อย่างเคร่งครัด และเร่งรัดศึกษาโครงการระบบขนส่งมวลชนในต่างจังหวัดให้ได้ข้อสรุปโดยเร็ว

4.2.2 ด้านการให้บริการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชน เช่น การบำรุงรักษาสิ่งอำนวยความสะดวกสำหรับผู้พิการให้สามารถเข้าถึงบริการได้อย่างสะดวกและปลอดภัยและการให้ความสำคัญกับการจัดระเบียบพื้นที่พาณิชย์ในลักษณะที่ต้องไม่กีดขวางทางเดิน

4.2.3 ด้านการเงิน ให้ความสำคัญกับการหารายได้เชิงพาณิชย์นอกเหนือจากการให้บริการรถไฟฟ้าและใช้แนวทางด้านการตลาด